จีนได้เปิดเผยโครงการบำเหน็จบำนาญภาคเอกชนในวันนี้ (21 เม.ย.) โดยจะอนุญาตให้พนักงานบริษัทสามารถสะสมเงินเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญ ซึ่งจะนำเงินไปลงทุนในผลิตภัณฑ์การเงินต่าง ๆ ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของจีนในการรับมือกับปัญหาผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น
ภายใต้โครงการใหม่นี้ พนักงานบริษัทสามารถสมทบเงินเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญได้สูงสุดถึง 12,000 หยวน (1,863 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี เมื่อเทียบกับโครงการบำเหน็จบำนาญของรัฐที่จำกัดยอดเงินสมทบคงที่ทั้งจากพนักงานและนายจ้าง
นอกจากนี้ จะมีการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่นำส่งเงินสมทบบำเหน็จบำนาญส่วนบุคคลเป็นครั้งแรก
เงินสะสมที่อยู่ในบัญชีบำเหน็จบำนาญส่วนบุคคลสามารถนำไปลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภทได้ เช่น ผลิตภัณฑ์การจัดการความมั่งคั่งของธนาคาร, เงินฝาก และกองทุนสาธารณะ เป็นต้น
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ตลาดเงินบำเหน็จบำนาญภาคเอกชนจะขยายตัวอย่างน้อย 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 จากระดับปัจจุบันที่ 3 แสนล้านดอลลาร์
รายงานจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ในเวลาอีกเพียง 20 ปี ประชาชนราว 28% ของจีนจะมีอายุมากกว่า 60 ปี ขณะที่ปัจจุบันประชากรกลุ่มดังกล่าวมีสัดส่วนอยู่ที่ 10% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ซึ่งส่งผลให้จีนเป็นหนึ่งในชาติที่มีอัตราการขยายตัวของผู้สูงอายุรวดเร็วที่สุดในโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 เม.ย. 65)
Tags: กองทุนบำเหน็จบำนาญ, จีน, ผู้สูงอายุ