นางสุธาทิพย์ สนเอี่ยม รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้ขยายกำหนดเวลาดำเนินการ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 โดยส่งแบบประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประจำปีภาษี 2565 ให้แก่ผู้เสียภาษี จากภายในเดือน มี.ค. เป็นภายในเดือน เม.ย. 65 และให้ชำระภาษีตามแบบแจ้งการประเมินภาษี จากภายในเดือน เม.ย. เป็นภายในเดือน มิ.ย. 65
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ ณ สำนักงานเขตที่ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่ พร้อม QR CODE ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และมีการจัดส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ผู้เสียภาษีแต่ละรายทราบ รวมถึงตรวจสอบอัตราการจัดเก็บภาษีฯ ตามการใช้ประโยชน์ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประเภทต่างๆ โดยเฉพาะหลักเกณฑ์การพิจารณาที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ซึ่งติดประกาศไว้พร้อมกับประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ ณ สำนักงานเขตที่ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่ และประกาศทางเว็บไซต์ของฝ่ายรายได้แต่ละสำนักงานเขตที่ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่
นอกจากนี้ ตรวจสอบช่องทางการแจ้งแก้ไขข้อมูล ในกรณีที่พบว่าใบประเมินเรียกเก็บภาษีไม่ถูกต้อง โดยผู้เสียภาษีสามารถยื่นคำร้องคัดค้านการประเมินภาษีหรือการเรียกเก็บภาษี ต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ สำนักงานเขตที่ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่ หรือสแกน QR CODE ในใบแจ้งการประเมินเพื่อยื่นคำร้องคัดค้านฯ พร้อมแนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง หรือยื่นคำร้องคัดค้านฯ ผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของฝ่ายรายได้แต่ละสำนักงานเขตที่ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่ก็ได้
ในส่วนของช่องทางการชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กรุงเทพมหานครได้เพิ่มทางเลือกและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการชำระภาษีได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ดังนี้ 1. สำนักงานเขต 2. ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ 3. เครื่องเอทีเอ็ม (ATM) ของธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ 4. บัตรเครดิตประเภท Visa และ Master ของธนาคารและสถาบันการเงินทุกแห่ง หรือบัตรกรุงไทยวีซ่าเดบิต และ 5. ทำรายการชำระเงินข้ามธนาคารด้วย Barcode หรือ QR Code
นอกจากนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการชำระภาษีประเภทต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์สำนักการคลัง กรุงเทพมหานคร https://www.fdbma.net/ หรือติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานเขตที่ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่ หรือกองรายได้ สำนักการคลัง กรุงเทพมหานคร โทร 02-2243070 หรือ 02-2248266
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ขอให้ผู้เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทั้งที่เป็นบุคคลทั่วไปและนิติบุคคล ตรวจสอบข้อมูลการเสียภาษีของตนพร้อมชำระภาษีภายในวันที่ 30 มิ.ย. 65 เนื่องจาก “ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง” ถือว่ามีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งภาษีที่จัดเก็บได้กรุงเทพมหานคร จะนำไปใช้ในการพัฒนาพื้นที่ให้เกิดความเจริญในระยะยาวต่อไป
อนึ่ง รัฐบาลได้ประกาศอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปีภาษี 2565 เป็นต้นไป ให้มีอัตราเดิมเช่นเช่นเดียวกับปีภาษี 2563- 2564 แต่จะต้องจ่ายเต็มจำนวน ไม่มีการปรับลดการจัดเก็บค่าภาษีลง 90% เหมือนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากกระทรวงการคลังได้แจ้งว่า การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นรายได้หลักที่นำเข้าสู่ท้องถิ่น การลดภาษีฯ ในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้รายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลดลงปีละประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และขาดรายได้เพื่อนำไปพัฒนาและจัดทำบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในปีนี้ผู้เสียภาษียังคงได้รับการบรรเทาภาระภาษีในหลายกรณี ได้แก่
- ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของเป็นบุคคลธรรมดาและใช้ประกอบเกษตรกรรม ได้รับยกเว้นภาษี
- ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยที่เจ้าของเป็นบุคคลธรรมดา และมีชื่อในทะเบียนบ้านในวันที่ 1 ม.ค. จะได้รับยกเว้นมูลค่าฐานภาษีไม่เกิน 50 ล้านบาท
- กรณีที่เป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง จะได้รับยกเว้นมูลค่าฐานภาษีสำหรับสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท ดังนั้น ผู้ที่เป็นเจ้าของทรัพย์สิน มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท หรือไม่เกิน 10 ล้านบาท แล้วแต่กรณี จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่สำหรับบุคคลที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวที่มีมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท หรือเกิน 10 ล้านบาท แล้วแต่กรณี จะเสียภาษีเต็มอัตราเฉพาะส่วนที่เกินเท่านั้น
- การผ่อนปรนภาระภาษีให้แก่ผู้เสียภาษีกรณีมีภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สูงกว่าค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินและภาษีบำรุงท้องที่ที่เคยชำระในปี 2562 จะบรรเทาภาระให้โดยเสียภาษีเท่ากับค่าภาษีปี 2562 บวกกับ 75% ของส่วนต่างค่าภาษีปี 2565 กับปี 2562
สำหรับอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปัจจุบัน กำหนดครอบคลุมที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง 4 ประเภท ดังนี้
- ประเภทที่ 1 ที่ดินเพื่อการประกอบเกษตรกรรม อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน ตั้งแต่ 0.01-0.1%
- ประเภทที่ 2 ที่อยู่อาศัย อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน ตั้งแต่ 0.02-0.1% โดยแยกเป็น 3 ข้อย่อย ได้แก่
- ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน ตั้งแต่ 0.03-0.1%
- สิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน ตั้งแต่ 0.02-0.1%
- ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยกรณีอื่นนอกเหนือจาก 2 ข้อข้างต้น มีอัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน ตั้งแต่ 0.02-0.1%
- ประเภทที่ 3 การใช้ประโยชน์อื่นนอกเหนือจากประเภทที่ 1 และ 2 หรือที่ดินกลุ่มพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน ตั้งแต่ 0.3-0.7%
- ประเภทที่ 4 ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ ยกเว้นมีกฎหมายห้ามหรือทิ้งไว้เพื่อการเกษตรหรือปล่อยไว้ เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการ อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน ตั้งแต่ 0.3-0.7%
ส่วนในกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ต้องเสียภาษี เป็นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน ให้เรียกเก็บภาษีสำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างในปีที่ 4 เพิ่มขึ้นจากอัตราภาษีที่จัดเก็บเดิม ในอัตรา 0.3% และหากยังทิ้งไว้ว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพอีกเป็นเวลาติดต่อกัน ให้เพิ่มอัตราภาษีอีก 0.3% ในทุก 3 ปี แต่อัตราภาษีที่เสียรวมทั้งหมดแล้วต้องไม่เกิน 3%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 เม.ย. 65)
Tags: กรุงเทพมหานคร, ภาษีที่ดิน, ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง