นายอาร์เธอร์ ชุง ผู้ก่อตั้งดีไฟแนนซ์ แคปิตัล (DeFiance Capital) ซึ่งเป็นกองทุนคริปโทเคอร์เรนซีในสิงคโปร์ เตือนว่า บริษัทคริปโทเคอร์เรนซีที่มีชื่อเสียงต้องเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากขณะนี้ทุกองค์กรกำลังตกเป็นเป้าหมายของแฮคเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ และควรเสริมความแข็งแกร่งในด้านความมั่นคงทางไซเบอร์เพื่อตั้งรับการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น
นายชุงกล่าวว่า เกาหลีเหนือมีแนวโน้มทุ่มทรัพยากรเพื่อเปิดฉากการโจมตีทางไซเบอร์ พร้อมแนะนำให้บริษัทคริปโทเคอร์เรนซี จัดจ้างพนักงานที่สามารถดูแลระบบทางไกลได้ โดยมีคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานสำหรับการทำธุรกรรมคริปโทเคอร์เรนซีโดยเฉพาะ และเพิกถอนการอนุมัติโทเคนที่ไม่จำเป็น
นายชุงเปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “อุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีต้องตระหนักอย่างยิ่งว่าพวกเขากำลังถูกองค์กรอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่มีรัฐเป็นผู้หนุนหลังหมายหัวอยู่ ซึ่งล้วนเป็นแฮคเกอร์ที่เก่งกาจและมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก”
ทั้งนี้ คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ลาซารัส กรุ๊ป (Lazarus Group) ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ เป็นผู้จารกรรมเงินคริปโทเคอร์เรนซีมูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์จากบล็อกเชนโรนิน บริดจ์ (Ronin Bridge) ซึ่งเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่ให้บริการเกมออนไลน์ “Axie Infinity” โดยเหตุการณ์จารกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา และถือเป็นเหตุการณ์จารกรรมเงินคริปโทเคอร์เรนซีครั้งใหญ่ที่สุด
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางไซเบอร์มองว่า การก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ถือเป็นหนึ่งในท่อน้ำเลี้ยงให้กับเศรษฐกิจเกาหลีเหนือซึ่งกำลังย่ำแย่จากมาตรการคว่ำบาตรที่นานาชาติร่วมกันกดดันให้ยุติการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 เม.ย. 65)
Tags: Cryptocurrency, DeFiance Capital, คริปโทเคอร์เรนซี, ความมั่นคงทางไซเบอร์, ดีไฟแนนซ์ แคปิตัล, สินทรัพย์ดิจิทัล, อาร์เธอร์ ชุง