หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงต่อรับปัจจัยต่างประเทศกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยแรง

นักวิเคราะห์ฯมอง SET วันนี้ปรับตัวลดลงต่อ รับแรงกดดันรุนแรงจากต่างประเทศจากความกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรง หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีพุ่ง และหากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐที่จะประกาศออกมาเร่งตัวขึ้นอีกก็จะยิ่งเป็นแรงกดดันให้กับเฟดต้องปรับทิศทางนโยบายการเงินตึงตัวเร็วขึ้น ส่งผลดาวโจนส์ร่วงลงแรงเมื่อคืนนี้ ให้แนวรับวันนี้ 1,668 จุด และแนวต้าน 1,687 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส (ASP) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากวานนี้ ตอบรับแรงกดดันค่อนข้างรุนแรงจากปัจจัยต่างประเทศ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวสูงขึ้นมาเหนือ 2.79% และยิ่งหากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือนมี.ค.ที่ใกล้จะประกาศออกมาเร่งตัวขึ้นอีก ก็จะเพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงขึ้น

อนึ่ง ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทั้งในเดือน พ.ค.และมิ.ย.

ขณะเดียวกันสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังทรงตัวสูงก็จะส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อของไทยเช่นกัน และอาจเป็นแรงกดดันต่อนโยบายการเงินของไทยด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,668 จุด และแนวต้าน 1,687 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (11 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,308.08 จุด ลดลง 413.04 จุด หรือ -1.19%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,412.53 จุด ลดลง 75.75 จุด หรือ -1.69% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,411.96 จุด ลดลง 299.04 จุด หรือ -2.18%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,606.87 จุด ลดลง 214.65 จุด หรือ -0.80%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,279.18 จุด เพิ่มขึ้น 70.88 จุด หรือ +0.33% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,165.12 จุด ลดลง 2.01 จุด หรือ -0.06%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 เม.ย.) ที่ระดับ 1,678.46 จุด ลดลง 7.54 จุด, -0.45%

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 554.39 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 เม.ย.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.(11 เม.ย.) ร่วงลง 3.97 ดอลลาร์ หรือ 4.0% ปิดที่ 94.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 เม.ย.) อยู่ที่ 17.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.66 อ่อนค่าตามภูมิภาค หลังดอลล์แข็งค่ารับบอนด์ยีลด์พุ่งกังวลเฟดเร่งขึ้นดบ.

– “อาคม” ลุยเก็บภาษีหุ้น ปี 2565 ชี้เป็นจังหวะเหมาะสมแล้ว เหตุตลาดมีอัตราการเติบโตและไม่ได้รับผลกระทบวิกฤติโควิด-19 ประเมินรายได้เข้ารัฐกว่า “หมื่นล้าน” ดีเดย์จัดเก็บตั้งแต่บาทแรกในอัตรา 0.1% ลั่นโบรกฯ เป็นคนจัดเก็บและนำส่งกรมสรรพากร “บล.ทิสโก้” เผยต้นทุนนักลงทุนพุ่ง-วอลุ่มซื้อขายลด

– คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเห็นชอบลดวันกักตัวกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 5 วันและสังเกตอาการอีก 5 วัน เสนอ ศปก.ศบค.พิจารณาใช้หลังสงกรานต์ ขณะที่ ยอดผู้ป่วยโควิดพุ่ง กทม.ติดเชื้อสะสม 2 แสนกว่า 3 จังหวัด ปอดอักเสบสูงสุด เสียชีวิตทะลุ 100 เป็นวันที่ 2 “กว่างโจว” สั่งปิด รร.-เซี่ยงไฮ้ติดเชื้อใหม่ทุบสถิติ

– ตลท.เผย อยู่ระหว่างการพิจารณาออกมาตรการกำกับการซื้อขายดูแลหุ้นร้อนเพิ่มหลังพบ “หุ้นกลาง-เล็ก” บางตัว โดนมาตรการกำกับซื้อขาย ปัจจุบัน ราคายังไปต่อ “บล.เมย์แบงก์” ชี้นักลงทุนหันลงทุนหุ้นกลาง-เล็กที่มีปัจจัยเฉพาะตัว หลังหุ้นใหญ่พักฐาน “กสิกรไทย” แจงเกณฑ์ปัจจุบันเหมาะสม

– บอร์ด Medical Hub เห็นชอบ “อันดามันเวลเนส” 4 จังหวัด จ่อชง ครม.ดำเนินการในปีนี้ ตั้งเป้าเป็นศูนย์เวลเนสนานาชาติ ระดมเอกชนลงทุนตั้งศูนย์มะเร็งระดับโลกภาคเอกชน พื้นที่อมตะซิตี้ ผุดหลักสูตรผลิตแพทย์รองรับเมดิคัล ฮับ พร้อมดัน “กัญชา กัญชง” รูปแบบ Metaverse อันแรกของประเทศ ผ่านแพลตฟอร์มต้นแบบ มทส. สร้างอวตาร์ จับจองพื้นที่ปลูก ซื้อสินค้า หาองค์ความรู้ รองรับศูนย์กลางกัญชาโลกครบวงจร

– ธุรกิจอสังหาฯชี้ไตรมาส 2 ปัจจัยเสี่ยงเพียบ’เงินเฟ้อ หนี้ครัวเรือน วัสดุราคาแพง’ หวั่นฉุดตลาดปี’65 ไม่ถึง 10% ค่ายพฤกษาเผยแนวราบขายดีกว่าคอนโด ค่าย แอล.พี.เอ็น.หวั่น กำลังซื้อทรงตัวยาวถึงไตรมาส 3 จับตาหลังสงกรานต์แห่เปิดโครงการใหม่ทุกหัวถนน

หุ้นเด่นวันนี้

– AOT (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 70.00 บาท แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 64/65 (ม.ค.-มี.ค.65) ดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากรัฐกลับมาเปิดประเทศแบบ Test & Go ตั้งแต่เดือน ก.พ.65 รวมถึงการออกมาตรการกระตุ้นอย่างเราเที่ยวด้วยกันจะช่วยหนุนการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือ นอกจากนี้ยังมี Sentiment บวกจากการปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศ Test & Go ยกเลิกตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง อีกทั้งเตรียมยกเลิกไทยแลนด์พาสคาดเริ่ม 1 มิ.ย.65 กระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ

– SPALI (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 24.00 บาท Presale สูงสุดในรอบ 14 ไตรมาส สะท้อน Demand ฟื้นแรงยอด Presale ไตรมาส 1/65 รายงานที่ 8.9 พัน ลบ. +22%YoY, +36%QoQ โครงการแนวราบมาแรง ส่วนคอนโดเริ่มฟื้น ไตรมาส 1 เปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ Demand การซื้อ-โอน บ้านและคอนโด ในกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง-บน ปี 65 ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ นโยบายรัฐ และ LTV หนุนยอดขายทั้งปี KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 ที่ 7.17 พัน ลบ. และ 7.65 พัน ลบ. +1.5%YoY, +6.6%YoY ตามลำดับ

– BLA (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 49.5 บาท ได้ Sentiment บวกจากแนวโน้มของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่กลับมาสูงขึ้นล่าสุดพุ่งทะลุระดับ 2.8% สูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 เม.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top