เงินบาทเปิด 33.66 อ่อนค่าตามภูมิภาค หลังดอลลลาร์แข็งค่ารับบอนด์ยีลด์พุ่ง กังวลเฟดเร่งขึ้นดบ.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.66 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.59 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน เนื่องจากบอนด์ยีลด์ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี ทำให้นักลงทุนกังวลเรื่องนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

“บาทอ่อนค่าตามภูมิภาคหลังดอลลาร์แข็งค่า เนื่องจากนักลงทุนกังวลเรื่องเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองดอลลาร์มากขึ้น”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.60 – 33.75 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (11 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.37308% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.40957%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 125.44 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 125.38 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0867 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0924 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.640 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ระบบการเงินไทยในไตรมาส 1/65 ยังมีเสถียรภาพ แต่หากปัญหาภูมิรัฐ
    ศาสตร์ระหว่างรัสเซียและยูเครนยืดเยื้อ อาจส่งผลให้ค่าครองชีพและต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้นจนกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงิน ผ่านความสามารถในการชำระหนี้ที่ด้อยลงของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจและการสูญเสียความเชื่อมั่นของนักลงทุน
  • “อาคม” ยันปี 2565 เศรษฐกิจไทยโต 3-4% อานิสงส์บริโภคในประเทศ-ท่องเที่ยวฟื้นต่อเนื่อง ส่งออกยังแกร่ง พ่วงมาตรการรัฐเข็นเศรษฐกิจเต็มพิกัด จับตาสถานการณ์โควิด หนี้ครัวเรือนและตลาดแรงงานยังเปราะบาง ห่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนุนราคาสินค้าพุ่ง
  • กระทรวงการคลังเตรียมจะเริ่มจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้นให้ได้ภายในปีนี้ หลังจากที่ผ่านมามีการยกเว้นมาตลอด 30 ปีเนื่องจากมองว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะตลาดหุ้นไทยมีความเข้มแข็งและเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากในประเทศ ซึ่งประเมินว่าการเก็บภาษีจากการขายหุ้นจะทำให้มีรายได้เข้ารัฐอีกหลักหมื่นล้านบาทต่อปี
  • อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2.79% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2562 ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (11 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
  • ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทั้งในเดือนพ.ค.และมิ.ย. และอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 2.50-2.75% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งจะสูงกว่า 2.4% ซึ่งเป็นระดับที่กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าเป็นระดับที่เป็นกลาง
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (11 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนัก รวมทั้งวิกฤตการณ์รัสเซีย-ยูเครนที่ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย
  • นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือนมี.ค.จะพุ่งขึ้น 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี2524
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐด้านอื่น ๆ ที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค., ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนมี.ค. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 เม.ย. 65)

Tags: ,
Back to Top