ราคาหุ้น JDF เปิดเทรดวันแรกที่ 3.20 บาท สูงขึ้น 23.07% จากราคา IPO ที่หุ้นละ 2.60 บาท
บล.โกลเบล็ก ซึ่งเป็นเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้จัดจำหน่ายหุ้นสามัญใหม่ที่ออกและเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ บมจ.เจดีฟู้ด(JDF) ระบุว่า ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 65 ที่ 4.20 บาท/หุ้น
JDF ประกอบธุรกิจพัฒนาสูตร ให้คำปรึกษาในการผลิตสินค้าเครื่องปรุงรสอาหาร (Food Seasoning) แบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ตามความต้องการของลูกค้า และรับจ้างผลิตขนมขบเคี้ยวประเภทมะพร้าวอบกรอบ และผลิตและจำหน่ายสินค้าเครื่องปรุงรสอาหาร ขนมขบเคี้ยวประเภทมะพร้าวอบกรอบและซุปกึ่งสำเร็จรูปภายใต้ตราสินค้าของบริษัท ประเด็นสำคัญในการลงทุน
บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานในช่วงปี 61 ถึง 63 และงวด 9 เดือน ปี 64 เท่ากับ 642.9 ลบ. 657.9 ลบ. 582.2 ลบ. และ 421.0 ลบ. ตามลำดับ โดยปี 63 บริษัทมีรายได้ลดลง 11.5% จากปีก่อน จากการลดลงของยอดการสั่งซื้อของลูกค้าในธุรกิจอาหารและลูกค้าในอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการจำกัดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด 19 ส่วนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 64 รายได้หดตัวลงเล็กน้อย 3.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากการจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหารได้รับผลกระทบทางลบจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในประเทศ ส่งผลให้มีการล็อกดาวน์ในหลายจังหวัด
จากการหดตัวของรายได้ในช่วงปี 62-63 และ %GPM ที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 106.1 ลบ. และ 57.2 ลบ. ตามลำดับ โดยที่กำไรสุทธิปี 63 หดตัว 46.1%YoY เกิดจากการลดลงของอัตรากำไรขั้นต้นและการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารตามที่กล่าวไปข้างต้น และกำไรสุทธิช่วง 9 เดือนแรกของปี 64 ที่ 26.6 ลบ. คิดเป็น%NPM ที่ระดับ 6.3% กำไรสุทธิลดลง 42.6%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักเกิดจาก การลดลงของรายได้จากการขายที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการจำกัดการแพร่กระจายโควิด-19 และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายซึ่งเกิดจากการย้ายมาโรงงานใหม่ เพื่อรองรับการผลิตที่มากขึ้นและเติบโตของธุรกิจในอนาคต
อย่างไรก็ตาม คาดผลประกอบการปี 65 คาดว่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง สาเหตุหลักจาก 1)เครื่องปรุงรสอาหารที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร British Retail Consortium (BRC) จากสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีก อังกฤษ จะทำให้บริษัทเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเชนร้านอาหารขนาดใหญ่ได้มากขึ้น 2)กำลังซื้อจากลูกค้าเดิมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่กลับมาหลังการเปิดเมือง 3)การเข้าสู่ตลาดใหม่ โดยการเพิ่มสายการผลิต ผลิตภัณฑ์กลุ่มแป้งชุบทอบสำเร็จรูป Batter Mix 4) ธุรกิจ B2C มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ตั้งแต่ ม.ค.65 ภายใต้ตราสินค้า “GOOD EATS” ซึ่งเป็นซุปสำเร็จรูปไม่ใส่ผงชูรส (วางจำหน่ายผ่านช่องทาง Online และ Modern Trade) 5)ขยายตลาดสู่ CLMV เราประมาณการรายได้ปี 65 ราว 602.9 ล้านบาท เติบโต +9.0%YoY พร้อมคาดกำไรสุทธิราว 83.0 ล้านบาท เติบโต +71.6%YoY
ประเมินราคาเหมาะสมในปี 65 ของ JDF ราว 4.20 บาทต่อหุ้น ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าด้วยวิธี P/E Ratio โดยอิงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ของหุ้นกลุ่มที่มีลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกัน ได้แก่ RBF NSL และ XO ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งแสดงในตารางด้านล่าง ได้ PER เฉลี่ยที่ 30.0 เท่า โดยเราประเมินกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2565 ที่ราว 0.14 บาทต่อหุ้น ได้ราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 4.20 บาทต่อหุ้น และคาดหวังอัตราเงินปันผลที่ 1.7% ต่อปี (คำนวณโดยใช้ราคาเหมาะสม)
ปัจจัยเสี่ยง
i) ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่
ii) ความเสี่ยงจากการจัดหาวัตถุดิบที่เป็นสินค้าเกษตร
iii)การแข่งขันภายในอุตสาหกรรม
iv) ความเสี่ยงจากโรคระบาดโควิด-19
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 เม.ย. 65)
Tags: IPO, JDF, หุ้นไทย, เจดีฟู้ด