ธนาคารโลกได้ออกมาระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกมีแนวโน้มขยายตัว 5% ในปี 2565 ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่กลับมารุนแรงอีกครั้ง รวมถึงภาวะทางการเงินที่ตึงตัวขึ้นและสงครามรัสเซีย-ยูเครน
“ภาวะตื่นตระหนกจากผลพวงของสงครามในยูเครนและการคว่ำบาตรรัสเซียทำให้อุปทานสินค้าโภคภัณฑ์ตกอยู่ภายใต้ภาวะชะงักงัน เพิ่มความตึงเครียดทางการเงินและบั่นทอนการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก” รายงานความคืบหน้าทางเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกฉบับล่าสุดของธนาคารโลกระบุ
สำนักข่าวซินหัวเปิดเผยข้อมูลของธนาคารโลกว่า การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อสหรัฐอาจกระตุ้นให้มีการคุมเข้มทางการเงินเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ โดยอาจจะเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับสหรัฐ แต่ “เร็วเกินไป” สำหรับหลายประเทศในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ซึ่งเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ โดยความเสี่ยงของการเกิดภาวะเงินทุนไหลออก ซึ่งสามารถสร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินบางประเทศ อาจกดดันให้ต้องคุมเข้มทางการเงิน “ก่อนเวลาอันควร”
ธนาคารโลกระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศกำลังพัฒนาของเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกมีแนวโน้มจะชะลอตัวสู่ 5% ในปี 2565 ซึ่งลดลง 0.4% จากที่ประมาณการไว้ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว โดยกล่าวเสริมว่า หากภาวะการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลกย่ำแย่ลงไปอีกและมีการตอบสนองด้านนโยบายระดับชาติอย่างอ่อนแอ การขยายตัวในภูมิภาคอาจชะลอตัวลงสู่ระดับ 4%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 65)
Tags: ธนาคารโลก, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้