คณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้กล่าวเตือนในวันจันทร์ (4 เม.ย.) ว่า กองกำลังรัสเซียมีแนวโน้มเพิ่มปฏิบัติการทหารในยูเครน หลังความพยายามในการรุกคืบในภาคพื้นดินชะงักงันในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
“รัสเซียเปิดฉากสงครามครั้งนี้ โดยมุ่งหมายที่จะยึดกรุงเคียฟ จัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่แทนคณะรัฐบาลชุดปัจจุบันที่อยู่ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกีและควบคุมยูเครนให้ได้มากที่สุด” นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐกล่าวต่อผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว โดยเสริมว่า “รัสเซียเชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าวัตถุประสงค์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ”
ทั้งนี้ สำนักข่าวซีเอ็นบีซีเปิดเผยถ้อยแถลงของนายซัลลิแวนว่า บรรดาเจ้าหน้าที่สหรัฐเชื่อว่าขณะนี้เครมลินกำลังปรับเปลี่ยนเป้าหมายในสงคราม โดยระบุว่า “รัสเซียกำลังปรับเปลี่ยนกระบวนทัพเพื่อมุ่งความสนใจไปยังปฏิบัติการโจมตีในภาคตะวันออกและใต้ของยูเครนจากเดิมที่เล็งเป้าแดนดินส่วนใหญ่” หลังประสบความล้มเหลวในการยึดกรุงเคียฟ
“ทุกสัญญาณบ่งชี้ไปในแนวทางเดียวกันว่า รัสเซียจะพยายามตีวงล้อมและคว่ำกองกำลังยูเครนในภาคตะวันออกของยูเครน โดยเราคาดการณ์ว่า ขณะนี้เหล่าผู้บัญชาการรัสเซียกำลังดำเนินการวางกำลังพลใหม่จากภาคเหนือของยูเครนเป็นเขตที่โอบล้อมภูมิภาคดอนบาส”
นอกจากนี้ นายซัลลิแวนกล่าวอีกว่า การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่อสู้ของรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครนมีแนวโน้มจะรวมถึง “การออกปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและขีปนาวุธทั่วพื้นที่ที่เหลือของประเทศเพื่อสร้างความเสียหายทางทหารและเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นการก่อการร้ายอย่างชัดเจน”
ก่อนหน้านี้รัสเซียถูกบรรดาชาติตะวันตกครหาว่าก่ออาชญากรรมสงครามด้วยการสังหารหมู่ประชาชนในเมืองบูชาและอีร์ปิน ใกล้กรุงเคียฟ ฟากรัสเซียอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมโจมตีว่าสหรัฐสร้างสถานการณ์ยั่วยุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 65)
Tags: ยูเครน, รัสเซีย, สงคราม, สหรัฐ, เจค ซัลลิแวน, โจ ไบเดน