นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้โอกาศแกว่งตัว Sideway ในกรอบจำกัด คาดตลาดเงียบเหงาหลังไร้ปัจจัยใหม่และหลายๆตลาดในภูมิภาคมีวันหยุดสัปดาห์นี้ นักลงทุนรอติดตามความคืบหน้าการเจรจารัสเซียและยูเครน รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่จะออกมาสัปดาห์นี้ พร้อมให้แนวรับที่ 1,690 จุด และแนวต้านที่ 1,705 จุด และแนวต้านถัดไปที่ 1,715-1,720 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาศแกว่งตัว Sideway ในกรอบจำกัดและคาดว่าตลาดในสัปดาห์นี้ค่อนข้างเงียบเหงา โดยยังคงไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาชี้นำตลาด และ หลายๆตลาดในภูมิภาคมีวันหยุดทำการในสัปดาห์นี้ ทั้งจีน ไต้หวัน และ ไทย
โดยนักลงทุนยังคงรอติดตามความคืบหน้าของการเจรจาระหว่างรัสเซีย และ ยูเครน หลังในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมายังไม่มีความคืบหน้า นอกจากนี้ยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมาเพิ่มเติมด้วย
นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาภาวะ inverted yield curve มักเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนพากันเทขายพันธบัตรระยะสั้น และเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในระยะสั้น
พร้อมให้แนวรับที่ 1,690 จุด และแนวต้านที่ 1,705 จุด และแนวต้านถัดไปที่ 1,715-1,720 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (1 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,818.27 จุด เพิ่มขึ้น 139.92 จุด หรือ +0.40%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,545.86 จุด เพิ่มขึ้น 15.45 จุด หรือ +0.34% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,261.50 จุด เพิ่มขึ้น 40.98 จุด หรือ +0.29%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,685.65 จุด เพิ่มขึ้น 19.67 จุด หรือ +0.07%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,227.11 จุด เพิ่มขึ้น 187.56 จุด หรือ +0.85% ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ (4 เม.ย.) เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 เม.ย.) ที่ระดับ 1,701.31 จุด เพิ่มขึ้น 6.07 จุด, +0.36%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,963.71 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 เม.ย.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.(1. เม.ย.) ลดลง 1.01 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 99.27 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 เม.ย.) อยู่ที่ 16.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.44 คาดกรอบวันนี้ 33.40-33.55 จับตาทิศทางบอนด์ยิลด์สหรัฐ
- ธุรกิจท่องเที่ยว-โรงแรม ปรับกลยุทธ์อีกระลอกรับมือสารพัดปัจจัยเสี่ยง กระทุ้งรัฐเร่งประกาศ “เปิดประเทศเต็มรูปแบบ” ขณะเพื่อนบ้านทยอยผ่อนคลายมาตรการ หวั่นธุรกิจเดินหน้าไม่เต็มที่ ด้าน” สมาคมโรงแรมไทย” วอน “คลัง” ทบทวนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สำหรับธุรกิจโรงแรมเป็นการเฉพาะอีกครั้ง แจงผู้ประกอบการเดือดร้อนจากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า หวั่นหมดแรงไปต่อ จำเป็นต้องกดต้นทุนอื่น สะเทือนจ้างงาน
- เปิดข้อมูล “เครดิตบูโร” ชี้ “โควิด” ระบาด 2 ปี ดันเอ็นพีแอลพุ่ง พบรายย่อยเป็นหนี้ 2.3 ล้านบัญชี มูลค่า 2 แสนล้านบาท จากยอดหนี้เสียสะสม 4.3 ล้านบัญชี ขณะที่ “เอสเอ็มอี” ที่เป็นนิติบุคคล หนี้เสียท่วม 2.8 แสนธุรกิจ มูลค่า 3.2 แสนล้านบาท ประเมิน 5 กลุ่มธุรกิจ สุดเสี่ยงไม่รอด แนะเร่งแก้ให้ถูกจุด ช่วยคนเป็นหนี้เสียจากโควิด
- นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าจัดเก็บภาษีที่ดิน โดยจะเริ่มจัดเก็บตั้งเดือนเม.ย.65 เป็นต้นไป จากก่อนหน้านี้รัฐบาลลดหย่อนการจัดเก็บ 90% โดยรัฐได้จัดเก็บเพียง 10% เพื่อช่วยลดภาระผู้เสียภาษี แต่ปีนี้จะเริ่มเก็บตามอัตราภาษีที่ระบุไว้ แต่ประชาชนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ ทั้งนี้ ช่วง 2 ปีที่มีการลดหย่อนภาษีที่ดินนั้น รัฐสูญรายได้ไปราว 35,000 ล้านบาท
- “อาคม” สั่งตรึงดอกเบี้ยบ้าน 1 ปี หลังเห็นสัญญาณภาคอสังหาฯฟื้นตัว ธอส.รับลูกสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ มั่นใจปีนี้ปล่อยสินเชื่อได้กว่า 2.7 แสนล้านบาท ภาคเอกชนตีปีก ความต้องการที่อยู่อาศัยกลับมาแน่
- อุตสาหกรรมก่อสร้างระส่ำ วิกฤตถล่มซ้ำ 4 ระลอก จากซัพพลายเซนขาด ถึงไฟสงคราม ฉุดพลังงาน เหล็กขาด-วัสดุก่อสร้างพาเหรดขึ้นราคา ผวาขาดสภาพคล่องกลายเป็นโดมิโนกระทบโครงการรัฐพังทั้งระบบ ลุยทำหนังสือร้องบิ๊กตู่รอบ 2 กระทุ้ง ปรับสูตรคำนวณ ยกเลิกค่าเค หลังระบบทำงานรัฐล่าช้า ค้างจ่ายชดเชยค่าเค จากต้นทุนวัสดุผันผวน 4 ปี 1,000 ล้าน
หุ้นเด่นวันนี้
- RBF (ฟินันเซีย ไซรัส) “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 18 บาท คาดกำไรไตรมาส 1/65 กลับมาฟื้นแรง Q-Q แม้ต้นทุนวัตถุดิบยังทรงสูง แต่เริ่มทยอยปรับขึ้นราคากับลูกค้า 5%-10% กอปรกับคำสั่งซื้อกลับมาฟื้นหลังโควิดคลี่คลาย และเป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรสูงอย่างวัตถุแต่งกลิ่นและสี คาดกำไรจะเร่งขึ้นในไตรมาส 2/65 เพราะเป็น High Season และมีสต็อกวัตถุดิบล่วงหน้าถึง มิ.ย. รวมถึงจะรับรู้รายได้กัญชงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตามต้องติดตามแนวโน้มราคาวัตถุดิบ และการประสบความสำเร็จของผลิตภัณฑ์กัญชงในช่วงครึ่งหลังปี 65 เราคาดกำไรปี 2565 +83% Y-Y
- AS (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 27.00 บาท สร้าง New S Curve ของรายได้ด้วย Platform ที่ร่วมพัฒนากับ Bitkub เน้นเกมพัฒนาที่มีความสมดุลทั้งเล่นเพื่อความบันเทิงและเล่นเพื่อรับผลตอบแทน หากติดตลาดจะบวกต่อสร้างได้ในระยะยาว
ทยอยเปิดตัวเกมใหม่ได้ตาม Pipe line ตั้งเป้ารายได้จากเกมมือถือเพิ่มขึ้นเป็น 50% เมื่อเทียบกับรายได้รวม หนุนกำไรให้โตอย่างมีนัยสำคัญ Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 เฉลี่ยที่ 582 ลบ. และ 673 ลบ. +21%YoY, 16%YoY ตามลำดับ - AOT (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 73 บาท รับอานิสงส์การเปิดประเทศคาดนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวจาก 4 แสนคนปีที่แล้วเป็น 9 ล้านคนในปีนี้ จะส่งผลให้ปีนี้ AOT คาดขาดทุนเพียง 3,582 ล้านบาท น้อยลงจากขาดทุน 15,319 ล้านบาทในปีที่แล้ว และแนวโน้มกำไรจะกลับมาฟื้นตัวเต็มที่ในปี 2567 ที่ระดับ 2.75 หมื่นล้านบาทใกล้เคียงปี 2562
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 เม.ย. 65)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย, อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล