นายหวัง เหม่ย-ฮัว รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวันระบุว่า การที่จีนตัดสินใจล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้เพื่อสกัดโควิด-19 นั้น อาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งของบริษัทไต้หวันที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
อนึ่ง เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการเงินของจีน ประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งใหญ่ โดยการล็อกดาวน์จะแบ่งเป็น 2 ส่วน และจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (28 มี.ค.) เป็นต้นไป
สำนักข่าวกลางจีน (CNA) รายงานการแถลงข่าวของนายหวัง ซึ่งระบุว่า แม้ในขณะนี้การตัดสินใจดังกล่าวจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอย่างรุนแรงจนเห็นได้ชัด แต่มีความวิตกกังวลว่าการขนส่งจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
นอกจากนี้ CNA ยังรายงานด้วยว่า บริษัทแมททีเรียลส์ อนาไลซิส เทคโนโลยี อิงค์ (Materials Analysis Technology Inc.) ของไต้หวัน ซึ่งดำเนินการธุรกิจห้องปฏิบัติการสำหรับการทดสอบหลากหลายประเภท เช่น การวิเคราะห์วัสดุ การวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือ และการวิเคราะห์ความล้มเหลว กล่าวว่า การขนส่งของบริษัทที่เปิดสาขาในเซี่ยงไฮ้จะถูกเลื่อนออกไปจนกว่าจะสิ้นสุดล็อกดาวน์
ด้านบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ เมนูแฟคเจอริง โค (Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. หรือ TSMC) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก กล่าวว่า การล็อกดาวน์ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการผลิตในโรงงานที่เซี่ยงไฮ้ และเสริมว่า บริษัทจะปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโควิด-19 ของเมือง
ด้านเอเอสอี เทคโนโลยี โฮลดิ้ง โค (ASE Technology Holding Co.) ผู้ให้บริการทดสอบระบบและบรรจุภัณฑ์ของวงจรรวมรายใหญ่ที่สุดของโลก เปิดเผยว่า มาตรการสกัดโควิด-19 ในเซี่ยงไฮ้คาดว่าจะส่งผลให้ต้นทุนด้านโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น พร้อมให้คำมั่นว่าจะเพิ่มงบประมาณในการดูแลพนักงานในเซี่ยงไฮ้ ท่ามกลางตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มี.ค. 65)
Tags: เศรษฐกิจไต้หวัน, ไต้หวัน