ญี่ปุ่นจำเป็นต้องจับตาความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวอย่างใกล้ชิด หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากสงครามในยูเครน และส่งผลกระทบต่อซัพพลายพลังงานโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังไม่กลับสู่ระดับก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังโควิด และข้อกำหนดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดยังคงฉุดการฟื้นตัวในภาคการบริโภค แม้แต่ในช่วงก่อนที่ราคาต่าง ๆ จะพุ่งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
รัฐบาลญี่ปุ่นระบุในรายงานประจำเดือนว่า “เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน จึงควรมีการเฝ้าระวังถึงความเสี่ยงด้านการชะลอตัวที่เพิ่มขึ้น เช่น ราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น ความผันผวนในตลาดการเงิน และข้อจำกัดด้านซัพพลาย”
รายงานดังกล่าวยังคงไม่เปลี่ยนแปลงการประเมินเศรษฐกิจจากเดือนที่แล้ว โดยระบุว่ายังคงมีการฟื้นตัวแม้จะยังคงมีความเปราะบางอยู่บ้าง
รายงานระบุว่า หนึ่งในจุดเปราะบางดังกล่าวก็คือภาคครัวเรือน โดยรายงานยังคงยึดแนวโน้มเดิมของการประเมินการบริโภคของภาคเอกชนเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งระบุว่า การบริโภคจะทรงตัวเนื่องจากการควบคุมโควิด-19 ที่ยาวนานส่งผลต่อบริการที่ต้องเจอหน้ากัน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังระบุด้วยว่า ราคาผู้บริโภคในญี่ปุ่น “เพิ่มขึ้นปานกลาง” โดยอธิบายว่าราคาดังกล่าว “คงที่” ตลอดรายงาน 7 เดือนที่ผ่านมา
“เราเปลี่ยนแปลงคำอธิบายให้เป็นไปตามการปรับเพิ่มราคาล่าสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มอาหาร” เจ้าหน้าที่รัฐบาลกล่าวกับสื่อก่อนคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นจะอนุมัติรายงานดังกล่าว
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 0.6% ในเดือนก.พ. หลังบริษัทจำนวนมากเริ่มผลักภาระที่เกิดจากต้นทุนที่สูงขึ้นให้ผู้บริโภคแบกรับ
นักวิเคราะห์และผู้กำหนดนโยบายคาดว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะแตะระดับ 2% ในเดือนเม.ย. จากราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นและผลกระทบที่ลดลงจากการปรับลดค่าธรรมเนียมโทรศัพท์มือถือครั้งก่อน
ในบริบทของการเจรจาค่าแรงฤดูใบไม้ผลิล่าสุดและคาดการณ์ราคาของภาคเอกชน รายงานดังกล่าวเตือนว่าเงินเฟ้อมีโอกาสที่จะสร้างความเสียหายให้กับผู้บริโภคด้วยการทำให้รายได้จริงของพวกเขาลดลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มี.ค. 65)
Tags: ญี่ปุ่น, ยูเครน, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจญี่ปุ่น