นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือโดยสาร “ท่าเรือสาทร” ว่า รัฐบาลมีนโยบายพัฒนาการขนส่งทางน้ำ โดยท่าเรือสาทรมีผู้โดยสารใช้บริการทั้งท่าเรือโดยสาร ท่าเรือข้ามฟาก และท่าเรือท่องเที่ยว เฉลี่ยวันละ 15,236 คน พื้นที่ 1,088 ตร.ม. รองรับเที่ยวเรือ 281 เที่ยว/วัน ส่งผลให้ท่าเรือเดิมที่มีขนาดเล็กมีความแออัด
ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าได้ใช้งบประมาณดำเนินการปรับปรุงจำนวน 16.247 ล้านบาท เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือน ก.พ.63 โดยขณะนี้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมเปิดบริการภายในเดือน เม.ย.นี้ โดยสามารถขยายพื้นที่ท่าเทียบเรือและพื้นที่โดยรอบเพิ่มเป็น 1,364 ตารางเมตร ปรับปรุงโป๊ะขนาด 6×12 เมตร พร้อมสะพานปรับระดับจำนวน 4 โป๊ะ, โป๊ะขนาด 9×17 เมตร พร้อมสะพานปรับระดับจำนวน 1 โป๊ะ
หลังปรับปรุงแล้วเสร็จ สามารถรองรับผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20,000 คน/วัน เป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ให้มีความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย สามารถเชื่อมโยงกับระบบขนส่งรูปแบบอื่นได้อย่างไร้รอยต่อ และยังช่วยลดปัญหาความคับคั่งของการจราจรทางบก
นายอธิรัฐ กล่าวว่า ในอนาคตจะมีพื้นที่ให้บริการในเชิงพาณิชย์ด้วย ซึ่งจะเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง และคณะกรรมการกฤษฎีกา จากนั้นจะเร่งนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแนวทาง ซึ่งจะเป็นการนำพื้นที่ว่างส่วนที่เหลือจากการให้บริการผู้โดยสารมาพัฒนาหารายได้เพิ่ม โดยมุ่งไปที่ท่าเรือขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ เช่น ท่าเรือาสาทร, ท่าช้าง นอกจากนี้ กรมเจ้าท่ายังอยู่ระหว่างพัฒนาปรับปรุงท่าเรือราชินี ท่าเตียน ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ค.65 อีกด้วย
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้นั้น นายอธิรัฐ กล่าวว่า ได้ให้กรมเจ้าท่าไปหารือกับผู้ประกอบการเรือโดยสารต่างๆ เพื่อขอความร่วมมือในการชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารในช่วงนี้ออกไปก่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาน ส่วนผู้ประกอบการซึ่งต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น สามารถเสนอมาตรการที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือเข้ามาได้ เพื่อหาทางช่วยเหลือกันต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มี.ค. 65)
Tags: กรมเจ้าท่า, ท่าเรือ, อธิรัฐ รัตนเศรษฐ, แม่น้ำเจ้าพระยา