ข้อมูลชี้เครื่องบินไชน่าอีสเทิร์นร่วงด้วยความเร็วเกือบเท่าเสียงก่อนกระแทกพื้น

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานการวิเคราะห์หาสาเหตุเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์สตกในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงของจีนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ข้อมูลจาก Flightradar24 บ่งชี้ว่า เครื่องบินดิ่งลงด้วยความเร็วเกือบเท่ากับเสียงก่อนที่จะร่วงลงกระแทกพื้นหุบเขาใกล้กับเมืองอู๋โจว

การตกในลักษณะดังกล่าวอาจทำให้ปฏิบัติการตรวจสอบมีความซับซ้อน เพราะอาจจะทำลายหลักฐานต่าง ๆ และทำลายข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการบิน รวมทั้งกล่องบันทึกเสียงที่ถูกออกแบบมาเพื่อทนต่อแรงกระแทก

ข้อมูลจาก Flightradar24 ระบุว่า เครื่องบินโบอิ้ง 737 ลำนี้ดิ่งลงด้วยความเร็วกว่า 640 ไมล์ (966 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง และบางขณะอาจเร็วกว่า 700 ไมล์ต่อชั่วโมง

“ข้อมูลเบื้องต้นบ่งชี้ว่า เครื่องบินดิ่งลงด้วยความเร็วเกือบเท่าเสียง โดยร่วงลงรวดเร็วมาก”

จอห์น ฮันส์แมน ศาสตราจารย์ด้านอวกาศจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) กล่าว

สำนักงานการบินพลเรือนของจีนระบุว่า เครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ MU5735 ได้เดินทางออกจากเมืองคุนหมิงเมื่อเวลา 13.11 น.ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวันจันทร์ (21 มี.ค.) และมีกำหนดเดินทางถึงเมืองกวางโจวภายในเวลา 2 ชั่วโมง แต่ได้ประสบอุบัติเหตุตกลงในหุบเขาใกล้กับเมืองอู๋โจว ส่งผลให้ผู้โดยสาร 132 คนเสียชีวิตทั้งหมด

ข้อมูลจาก Flightradar24 ระบุว่า เครื่องบินบินที่ระดับความสูง 29,000 ฟุต (8,839.2 เมตร) และอยู่ห่างประมาณ 100 ไมล์ (160.93 กิโลเมตร) จากจุดหมายปลายทาง ซึ่งเป็นจุดที่นักบินจะเริ่มลดเพดานบินเพื่อเตรียมลงจอด แต่แทนที่จะค่อย ๆ ปรับลดเพดานบินลงประมาณ 1,000 ฟุตต่อนาที เครื่องบินกลับปักหัวลง และจากนั้นก็เริ่มดิ่งลงด้วยความเร็วกว่า 30,000 ฟุต (9,144 เมตร) ต่อนาทีภายในเวลาไม่กี่วินาที

บ๊อบ แมนน์ ประธานบริษัทอาร์ดับเบิลยู แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการบินกล่าวว่า “นี่เป็นการตกลงมาโดยใช้พลังงานสูงมาก และดูเหมือนเป็นการหายไปในพริบตา ส่วนคำถามที่ว่าจะสามารถหาเครื่องบันทึกข้อมูลหรือเครื่องบันทึกเสียงนักบิน หรือแม้กระทั่งผู้รอดชีวิตได้หรือไม่นั้น ผมไม่อาจตอบได้เลย”

ขณะที่เจมส์ แคช อดีตหัวหน้าฝ่ายให้คำปรึกษาด้านเทคนิคของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐ (NTSB) กล่าวว่า “กล่องดำรุ่นใหม่ซึ่งบันทึกข้อมูลการบินและเก็บข้อมูลบนชิปคอมพิวเตอร์นั้น เป็นอุปกรณ์ชั้นดีที่สามารถบันทึกการตกของเครื่องบินแบบดิ่งปักหัวด้วยความเร็วสูง นี่เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ควรจะหาให้เจอ”

“แม้ว่าแผงวงจรซึ่งเก็บข้อมูลมักจะหลุดออกมาเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่ข้อมูลจะยังสามารถกู้ได้แม้ว่าเครื่องได้รับความเสียหายก็ตาม อุปกรณ์ตัวนี้อาจจะตกอยู่ที่ไหนสักแห่ง และผมคาดหวังว่ามันจะยังอยู่ในสภาพที่ดี”

แคชกล่าว

สำนักงานการบินพลเรือนของจีนแถลงต่อสื่อมวลชนว่า เจ้าหน้าที่หอควบคุมการบินได้พยายามหลายครั้งที่จะติดต่อกับเที่ยวบิน MU5735 ของไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส หลังจากพบว่าเครื่องบินเริ่มปักหัวลง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับ โดยเครื่องบินได้หายไปจากจอเรดาร์เมื่อเวลา 14.23 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์ที่ 21 มี.ค. เพียง 3 นาทีหลังจากที่เครื่องเริ่มดิ่งลง และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบผู้รอดชีวิต

ด้านนายซัน จีหยิง เจ้าหน้าที่ของไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ยืนยันว่า เครื่องบินโบอิ้งลำนี้ได้รับหนังสือรับรองความสมควรเดินอากาศ (Airworthiness Directive) ก่อนที่จะขึ้นบิน และสภาพทางเทคนิคอยู่ในขั้นมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ ลูกเรือทั้ง 9 คนล้วนมีประสบการณ์และมีสุขภาพที่ดี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มี.ค. 65)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top