ผลสำรวจที่จัดทำโดย IQAir ระบุว่า ไม่มีประเทศใดที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานด้านคุณภาพอากาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2564 ขณะที่บางพื้นที่ยังพบปัญหาหมอกควันเพิ่มขึ้นหลังจากที่เคยลดลงในช่วงโควิด-19
ทั้งนี้ WHO ได้กำหนดไว้ว่า ค่าเฉลี่ยรายปีของฝุ่น PM2.5 ไม่ควรเกิน 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงคำแนะนำเมื่อปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังระบุว่า แม้ค่าความเข้มข้นในระดับที่น้อยกว่านี้ก็ยังทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้มาก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลด้านมลพิษในเมือง 6,475 แห่ง และเปิดเผยว่ามีเพียง 3.4% เท่านั้นที่คุณภาพอากาศเข้าเกณฑ์มาตรฐานในปี 2564 ขณะที่ 93 แห่งมีฝุ่น PM2.5 สูงกว่าระดับที่ WHO กำหนดไว้ 10 เท่า
คริสตี ชโรเดอร์ ผู้จัดการฝ่ายวิทยาศาสตร์คุณภาพอากาศของ IQAir กล่าวว่า “หลายประเทศกำลังเร่งดำเนินการเพื่อลดมลพิษ จีนเองก็เริ่มมีความคืบหน้าในการลดมลพิษทางอากาศได้มากในบางส่วน และยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีอีกหลายพื้นที่ในโลกที่คุณภาพอากาศแย่ลง”
รายงานระบุว่า จีนมีฝุ่น PM2.5 ลดลงมาอยู่อันดับที่ 22 ในปี 2564 จากอันดับที่ 14 เมื่อปีก่อน โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นเล็กน้อยตลอดช่วงปีที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ 32.6 ไมโครกรัม
ขณะที่อินเดียมีระดับมลพิษโดยรวมแย่ลงในปี 2564 โดยกรุงนิวเดลียังคงรั้งตำแหน่งเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก ส่วนบังกลาเทศยังคงเป็นประเทศที่มีมลพิษสูงสุดโดยยังคงอยู่ในอันดับเดิม ส่วนสาธารณรัฐชาดติดโผครั้งแรกและอยู่ในอันดับสอง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 65)
Tags: PM2.5, WHO, องค์การอนามัยโลก