CoinShares ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลเปิดเผยในวันจันทร์ (21 มี.ค.) ว่า มีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดผลิตภัณฑ์การลงทุนและกองทุนคริปโทเคอร์เรนซีติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้มาตรการควบคุมตลาดคริปโทฯ รวมทั้งผลกระทบที่เกิดจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
รายงานของ CoinShares ระบุว่า มีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดคริปโทฯ มูลค่า 47 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 มี.ค. หลังจากที่ไหลออกไปแล้ว 110 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การไหลออกของสกุลเงินคริปโทฯ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลของหลายประเทศกำลังพิจารณาใช้มาตรการควบคุม โดยเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อสั่งการให้หน่วยงานทั้งหมดของรัฐบาลสหรัฐทำการประเมินความเสี่ยงและประโยชน์ของคริปโทเคอร์เรนซี พร้อมกับสั่งให้เร่งการวิจัยและพัฒนาสกุลเงินดอลลาร์ดิจิทัล
ล่าสุดคณะกรรมการกำกับดูแลมาตรฐานด้านการโฆษณา (ASA) ของสหราชอาณาจักร ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังบริษัทต่าง ๆ มากกว่า 50 แห่งที่โฆษณาคริปโทเคอร์เรนซี ก่อนที่ ASA จะใช้มาตรการควบคุมการโฆษณาคริปโทเคอร์เรนซีในลักษณะชี้นำแบบผิด ๆ และขาดความรับผิดชอบ
CoinShares ระบุว่า บิตคอยน์เป็นสกุลเงินคริปโทฯ ที่ไหลออกจากตลาดมากที่สุดถึง 33 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 มี.ค. หลังจากที่ไหลออกไปแล้วถึง 70 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
ทั้งนี้ ราคาบิตคอยน์ปรับตัวลง 0.5% แตะที่ระดับ 41,047 ดอลลาร์เมื่อวานนี้
อย่างไรก็ดี มิคเคล มอร์ช ผู้บริหารของบริษัท ARK36 ซึ่งเป็นเฮดจ์ฟันด์สินทรัพย์ดิจิทัลกล่าวว่า แม้ราคาบิตคอยน์ปรับตัวลงเล็กน้อยหลังจากแตะ 42,000 ดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ราคายังคงยืนอยู่เหนือระดับ 40,000 ดอลลาร์
ส่วนเงินทุนในผลิตภัณฑ์ที่อิงกับอีเธอร์เรียมนั้นไหลออกจากตลาดเป็นมูลค่า 17 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 มี.ค. หลังจากที่ไหลออก 50 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
ทั้งนี้ อีเธอร์เรียมยังคงได้รับผลกระทบจากบรรยากาศการซื้อขายในเชิงลบ โดยนับตั้งแต่ต้นปีนี้ มีเงินไหลออกจากตลาดอีเธอร์เรียมไปแล้วถึง 151 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.2% ของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารทั้งหมด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 65)
Tags: bitcoin, CoinShares, Cryptocurrency, คริปโทเคอร์เรนซี, บิตคอยน์, มิคเคล มอร์ช, ยูเครน, รัสเซีย, สินทรัพย์ดิจิทัล