นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียอาจหันไปเล่นงานประเทศมอลโดวาเป็นเป้าหมายต่อไป หลังจากการใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครนล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 แล้วในขณะนี้
“หากสถานการณ์ความขัดแย้งลุกลามออกไปนอกยูเครน มอลโดวาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสี่ยงมากที่สุด” นายอาเดรียโน โบโซนี ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทเรน (Rane) ซึ่งดำเนินงานด้านบริหารจัดการความเสี่ยง ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี
ทั้งนี้ ประเทศมอลโดวาไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) และไม่ได้เป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และต้องการเข้าเป็นสมาชิกเช่นเดียวกับยูเครน นอกจากนี้ มอลโดวาซึ่งเคยเป็นอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตยังมีประชากรที่ฝักใฝ่รัสเซียซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนทรานส์นีสเตรีย (Transnistria) ซึ่งแยกตัวออกมาและอยู่ติดกับชายแดนยูเครน
ปัจจุบัน ดินแดนทรานส์นีสเตรียปกครองโดยผู้นำที่รัสเซียหนุนหลัง และอาจเป็นโอกาสทางยุทธศาสตร์สำหรับรัสเซีย นอกจากนี้ ยังมีกองกำลังทหาร 1,500 ราย
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ปธน.ปูตินอาจมองว่า ดินแดนทรานส์นีสเตรียเป็นรัฐอิสระ อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับแคว้นโดเนตสก์-ลูฮันสก์ก่อนเปิดฉากบุกยูเครน หรืออาจกลายเป็นเป้าหมายในการจัดฉากสร้างสถานการณ์เพื่อเปิดทางให้รัสเซียเข้าแทรกแซง
นายโบโซนีกล่าวว่า “สำหรับผม ประเด็นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคือ การที่รัสเซียยังไม่ประกาศให้ดินแดนทรานส์นีสเตรียเป็นรัฐอิสระ เหมือนอย่างแคว้นโดเนตสก์-ลูฮันสก์”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มี.ค. 65)
Tags: มอลโดวา, ยูเครน, รัสเซีย, วลาดิเมียร์ ปูติน