ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า สินทรัพย์ของภาคครัวเรือนญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือนธ.ค. 2564 เพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 2,023 ล้านล้านเยน (17 ล้านล้านดอลลาร์) โดยยืนเหนือระดับ 2,000 ล้านล้านเยนเป็นครั้งแรก เนื่องจากโรคโควิด-19 ทำให้ประชาชนใช้จ่ายลดลง
สินทรัพย์ในรูปเงินสดและเงินฝาก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งของสินทรัพย์ภาคครัวเรือนทั้งหมด เพิ่มขึ้น 3.3% สู่ระดับ 1.092 ล้านล้านเยน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสะท้อนว่าผู้บริโภคออมเงินมากกว่าใช้จ่าย
ส่วนสินทรัพย์ในรูปหุ้น เพิ่มขึ้น 15.5% แตะที่ 212 ล้านล้านเยน เนื่องจากราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น ขณะที่สินทรัพย์ในรูปกองทุนทรัสต์เพื่อการลงทุน เพิ่มขึ้น 20.4% แตะระดับ 94 ล้านล้านเยน
ข้อมูลของ BOJ ระบุว่า สินทรัพย์ที่ถือโดยบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน เพิ่มขึ้น 5.9% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,279 ล้านล้านเยน ส่วนสินเชื่อที่สถาบันการเงินปล่อยกู้องค์กรต่าง ๆ เพิ่มขึ้น 0.2% แตะที่ 356 ล้านล้านเยน และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าความต้องการจัดหาเงินทุนลดลง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นโยบายปัจจุบันของ BOJ ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมอยู่ในระดับต่ำ โดยสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 โดยเฉพาะ
นอกจากนี้ BOJ ยังคงซื้อสินทรัพย์ต่าง ๆ ต่อไป รวมถึงพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นและกองทุน ETF ตามมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มี.ค. 65)
Tags: BOJ, ญี่ปุ่น, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, ภาคครัวเรือน