นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนได้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการในภาคการผลิตสินค้าต่างๆปรับตัวสูงขึ้น โดยธุรกิจเฉพาะธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีต้นทุนพึ่งพิงน้ำมันสูง ในขณะที่ลูกค้าทั่วไปต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ธนาคารจึงได้ร่วมกับ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของธนาคาร ออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการและลูกค้าทั่วไปที่ใช้บริการเติมน้ำมันที่สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น (PTT Station) ทั่วประเทศ
สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการ ธนาคารพร้อมพิจารณาให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย โดยได้เตรียมมาตรการให้ความช่วยเหลือ ครอบคลุมทั้งการให้วงเงินสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง มาตรการช่วยเหลือพักชำระเงินต้น จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย เป็นต้น โดยลูกค้าสามารถติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ของธนาคารผู้ดูแลความสัมพันธ์เพื่อให้ได้รับบริการที่สะดวกและรวดเร็ว เริ่มโครงการตั้งแต่ 1 เม.ย.– 1 พ.ค. 65
ส่วนลูกค้าทั่วไป ธนาคารจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเติมน้ำมัน โดยเมื่อเติมน้ำมันในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น (PTT Station) และจ่ายด้วยบัตร PTT Blue Credit Card จะได้รับเครดิตเงินคืน สูงสุด 100 บาท/คน ตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.– 30 เม.ย. 65 หรือเมื่อจ่ายด้วยแอป Blue CONNECT จะได้รับเงินคืนสูงสุด 100 บาท/คน/เดือน เริ่ม 1 เม.ย.–31 พ.ค. 65
นายวิศน สุนทราจารย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร นวัตกรรมและความยั่งยืน บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงผันผวนสูงและต้องติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด OR หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยจะมีส่วนช่วยบรรเทาภาระต้นทุนของภาคธุรกิจและค่าครองชีพประชาชนจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนในขณะนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มี.ค. 65)
Tags: KBANK, กฤษณ์ จิตต์แจ้ง, ธนาคารกสิกรไทย, ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก, วิศน สุนทราจารย์, หุ้นไทย, โลจิสติกส์