นิวซีแลนด์จะเริ่มต้นกลับมาเปิดพรมแดนอีกครั้งเพื่อต้อนรับชาวต่างชาติในเดือนเม.ย. โดยจะยุติมาตรการป้อมปราการที่ได้ช่วยควบคุมโรคโควิด-19 ในประเทศได้เกือบตลอดช่วงระยะเวลาที่มีการระบาดใหญ่ทั่วโลก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กเปิดเผยถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ในวันนี้ว่า ชาวออสเตรเลียที่ได้รับวัคซีนแล้วจะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวเมื่อเดินทางถึงนิวซีแลนด์ตั้งแต่เวลา 23.59 น.ของวันที่ 12 เม.ย.ตามเวลาท้องถิ่น และนิวซีแลนด์จะเปิดพรมแดนให้กับประชาชนของประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าอื่น ๆ เช่น สหรัฐ, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ และเยอรมนีตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 1 พ.ค.
“เราพร้อมต้อนรับชาวต่างชาติอีกครั้ง โดยขณะนี้ เรามีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับสูง และคาดการณ์ว่า เราได้ผ่านพ้นการระบาดสูงสุดของไวรัสโอมิครอนแล้ว จึงปลอดภัยที่จะเปิดประเทศ”
นางอาร์เดิร์นได้สั่งปิดพรมแดนตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน โดยอนุญาตให้ชาวนิวซีแลนด์เท่านั้นที่สามารถเข้าประเทศได้และต้องเข้ากักตัวตามศูนย์กักตัวที่รัฐบาลจัดไว้ให้ เพื่อรับประกันว่าจะไม่เกิดการแพร่กระจายเชื้อเข้าสู่ชุมชนท้องถิ่น โดยมาตรการที่ได้รับการขนานนามว่า “ป้อมปราการนิวซีแลนด์” (Fortress New Zealand) นี้ ประสบความสำเร็จในการสกัดโควิด-19 เป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งเกิดการระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนซึ่งสามารถแพร่เชื้อได้ในระดับสูง และในขณะนี้ได้แพร่เชื้อในหมู่ประชากรอย่างรวดเร็ว
การยกเลิกมาตรการปิดพรมแดนจะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์ ซึ่งได้รับความเสียหาย เนื่องจากขาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมานานถึง 2 ปี
“การกลับมาเปิดพรมแดนอีกครั้งในช่วงวันปิดภาคเรียนของชาวออสเตรเลียจะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเราในระยะสั้น และถือเป็นข่าวดีสำหรับฤดูกาลเล่นสกีในช่วงฤดูหนาว ดิฉันรู้สึกภาคภูมิใจที่ขณะนี้นิวซีแลนด์ได้กลายเป็นประเทศที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวของเรา”
นางอาร์เดิร์นกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มี.ค. 65)
Tags: ท่องเที่ยว, นักท่องเที่ยว, นิวซีแลนด์, เปิดประเทศ, โควิด-19