นายเดวิด มัลพาสส์ ประธานธนาคารโลกแนะนำประชาชนและธุรกิจต่าง ๆ อย่ากักตุนอาหารและน้ำมัน แม้ว่าราคาจะพุ่งสูงขึ้นก็ตาม หลังจากรัสเซียโจมตียูเครน และนำไปสู่มาตรการคว่ำบาตรชุดใหญ่จากนานาชาติ
นายมัลพาสส์กล่าวในงานเสวนาออนไลน์ที่จัดโดยหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจไปทั่วโลกที่รุนแรงกว่าตัวสงครามเอง อย่างไรก็ดี จากการประเมินในขณะนี้ เขาคาดว่า วิกฤตครั้งนี้จะไม่ทำให้เศรษฐกิจโลกหยุดฟื้นตัว หรือส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั่วโลกลดลง
นายมัลพาสส์คาดว่า การรับมือสถานการณ์อย่างแข็งแกร่งจากผู้ผลิตทั่วโลกจะช่วยเพิ่มปริมาณซัพพลายได้เพียงพอต่อความต้องการ และคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องกักตุนสินค้าเพิ่มเป็นพิเศษในภาคครัวเรือนหรือธุรกิจร้านอาหาร นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่า อุปทานพลังงานนอกรัสเซียจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่อุปทานด้านอาหารนอกรัสเซียและยูเครนจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากสงคราม และประคองให้เศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้
นายมัลพาสส์ยังระบุด้วยว่า ซัพพลายพลังงานอาจเพิ่มขึ้นเร็วกว่าอาหาร เนื่องจากการปรับตัวทางการเกษตรมักใช้เวลาประมาณหนึ่งปี
“สิ่งที่ควรทำในสถานการณ์ตอนนี้คือ อย่าออกไปซื้อแป้งหรือน้ำมันมากักตุน แต่ขอให้ตระหนักว่าระบบเศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ มีการตอบสนอง และสินค้าจะยังคงมีเพียงพอ”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มี.ค. 65)
Tags: กักตุนอาหาร, ธนาคารโลก, น้ำมัน, อาหาร, เดวิด มัลพาสส์, เวิลด์แบงก์