นายอนันต์ กิตติวิทยากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) เปิดเผยว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/65 คาดว่าจะเติบโตตามที่ได้คาดการณ์ไว้ประมาณ 15 -20 % เทียบจากช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว เนื่องจากงานที่เลื่อนมาจากปี 2564 และงานโครงการที่เริ่มกลับมาเริ่มใหม่หลังจากชะลอตัวไปก่อนหน้านี้ รวมทั้งธุรกิจที่ผลิตจำนวนมากเพื่อส่งออกขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ เดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตเต็มที่มากกว่า 90%
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ที่ประมาณ 1,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงานใหญ่ Lotus’s หรือโลตัส โครงการประหยัดพลังงานระบบแสงสว่างประจำปี 65 ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่เริ่มทยอยกลับมาดำเนินการปรับปรุงก่อสร้างอีกครั้งหลังจากหยุดไประยะหนึ่งจากผลของโควิด นอกจากนี้ยังมีงานภาครัฐ เช่น อาคาร ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาโซน C แจ้งวัฒนะ ไฟส่องอาคารสถานีรถไฟฟ้าสีชมพู และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทกำลังติดตามงานโครงการใหญ่ ๆ ที่จะมีสนับสนุนงานในมือ (Backlog) เพิ่มเติม ทั้งงานภาคเอกชนและงานราชการ อาทิ โครงการ One Bangkok, Central Dusit, ศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย คลองสาน งานโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก, โรงพยาบาลจุฬาภรณ์, ศูนย์บริการการแพทย์เฉพาะทางชั้นเลิศ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น งานปรับปรุงไฟแสงสว่าง โดยใช้ LED ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เป็นต้น
โดยแผนธุรกิจในปี 65 ของบริษัทฯ นอกจากคงความเป็น Lighting Solutions Provider + Innovation เพื่อรองรับวิถีชีวิตใหม่ ภายใต้ Digital Technology 5G แล้วนั้น กลยุทธ์เพิ่มเติมในปีนี้ที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ คือ “Value First” กล่าวคือ เน้นสินค้าที่มีคุณภาพ รูปแบบอินเทรนด์เข้ายุคสมัย สินค้ามีนวัตกรรม ราคาแข่งขันได้ รวดเร็วตรงเวลาและซื่อตรงต่อลูกค้า รวมทั้งบริการทั้งก่อนและหลังการขายที่ทันใจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทันท่วงที พร้อมทั้งคำแนะนำเป็น Lighting Solution Provider นอกจากขายสินค้าอย่างเดียว โดยคำนึงมูลค่าที่ให้แก่ลูกค้าก่อนเสมอ
“ผมเชื่อว่าถ้าเราทำครบตามที่กล่าวข้างต้น ลูกค้าก็คงประทับใจอยู่กับเราตลอดไป ทำให้เราสามารถเติบโตไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงยั่งยืน สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมที่จะเผชิญกับอุปสรรคและสิ่งที่ท้าทายต่าง ๆ ขณะก้าวไปข้างหน้า” นายอนันต์ กล่าว
และภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ล่าสุด L&E ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “L&E UVGI Biological Lighting Germicidal Series เทคโนโลยีฆ่าเชื้ออัจฉริยะด้วยพลังงานแสง” โดย UV-C เทคโนโลยีใหม่หลอด UV-C 222nm ที่ไม่ทำอันตรายผิวหนังและดวงตามนุษย์เหมือนรังสี UVC 254 mm ชนิดเดิม (ซึ่งขณะที่เปิดหลอดไฟใช้งานต้องไม่มีคนใช้งานอยู่ในบริเวณนั้น) สามารถใช้กำจัดเชื้อโรคได้หลายชนิดรวมทั้งไวรัส โควิด -19 เหมาะกับบริเวณพื้นที่ที่มีคนใช้งานร่วมกัน เช่น ห้องโถง ที่พักคอย ห้องประชุม รวมทั้งอุโมงค์ฆ่าเชื้อบริเวณทางเข้าอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงงาน โรงเรียน โรงพยาบาล สนามบิน เป็นต้น โดยขณะนี้สินค้ามีวางจำหน่ายแล้ว และมีผู้ใช้งานบ้างแล้วเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และสนับสนุนรายได้ของบริษัทฯ ให้เติบโตแข็งแกร่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 มี.ค. 65)
Tags: L&E, หุ้นไทย, อนันต์ กิตติวิทยากุล, ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์