อนุสรณ์ชี้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียสร้างปัญหา Stagflation ในหลายประเทศรวมไทย

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภาวิจัยแห่งชาติ สาขาเศรษฐศาสตร์ และ อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ ม. รังสิต แสดงความเห็นว่า ผลกระทบสงครามรัสเซียยูเครนทำให้พื้นที่การผลิตข้าวสาลีได้รับความเสียหาย และ ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ รวมทั้งไม่สามารถส่งออก โดยรัสเซียกับยูเครนเป็นสองประเทศที่มีมูลค่าการส่งออกข้าวสาลีประมาณ 25-30% ของมูลค่าการค้าข้าวสาลีทั่วโลก ทำให้ประเทศนำเข้าข้าวสาลีอย่างไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อียิปต์ โมร็อกโก และเลบานอน มองหาประเทศส่งออกมาแทนที่รัสเซียและยูเครน เนื่องจากสงครามส่งผลให้ผลผลิตติดค้างในยูเครน

ส่วนการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกทำให้การซื้อข้าวสาลีจากรัสเซียทำได้ยาก สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ จะทำให้ทั่วโลกหันไปพึ่งพาการนำเข้าข้าวสาลีจากอินเดีย เพื่อบรรเทาปัญหาดีมานด์ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ผลกระทบเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคเกษตรกรรมและวิกฤติการขาดแคลนอาหาร ความมั่นคงทางอาหารย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

ขณะเดียวกัน ราคาข้าวสาลี จาก 800 ดอลลาร์ ปรับขึ้นมาเป็น 1,240 ดอลลาร์ (60%) ตอนนี้ชะลอลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ราว 1, 100 ดอลลาร์ ราคาข้าวโพดขึ้นสูงกว่า 750 ดอลลาร์ (สูงขึ้นกว่า 17%) ราคานม ราคาน้ำตาล ราคาข้าว น้ำมันคาโนลา (สำหรับปรุงอาหาร) ราคาอาหารสัตว์ ราคาเนื้อสัตว์ ล้วนปรับตัวสูงขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ราคาอาหารทั่วโลกรวมทั้งไทยปรับตัวสูงขึ้น เกิดภาวะการขาดแคลนอาหารและวิกฤตการณ์อาหารในบางประเทศ ส่วนการยกเลิกมาตรการควบคุมการนำเข้าและยกเลิกมาตรการภาษีนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ของรัฐบาลไทยจะช่วยบรรเทาปัญหาได้ระดับหนึ่งในระยะสั้นเท่านั้น

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ราว 1 ใน 4 ของแร่ธาตุสำคัญที่ใช้ในการผลิตอาหารในยุโรปมาจากรัสเซีย การแสวงหาแหล่งวัตถุดิบเพิ่มเติมเพื่อผลิตปุ๋ยให้เพียงพอกับความต้องการในระยะเวลาที่สั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ต้นทุนในการเพาะปลูกของเกษตรกรจะพุ่งสูงขึ้น และผลผลิตจะมีปริมาณต่ำลงมากและดันให้ราคาอาหารทะยานสูงขึ้นทั่วโลก จำนวนมนุษย์ครึ่งหนึ่งของโลกรวมทั้งปศุสัตว์ที่มนุษย์เลี้ยงเพื่อนำมาบริโภคได้อาหารจากการใช้ปุ๋ย หากการขาดแคลนปุ๋ยเกิดขึ้นในเวลายาวนานจะทำให้ผลผลิตลดลงถึง 50%

เวลานี้ รัฐบาลรัสเซียได้เรียกร้องให้บรรดาผู้ผลิตระงับการส่งออกปุ๋ย เราจะเห็นคนอดตายจากการขาดอาหารเพิ่มขึ้น รัสเซียเป็นผู้ผลิตสารอาหารสำหรับพืชรายใหญ่ เช่น แร่โปแตช (potash) และฟอสเฟต (phosphate) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในปุ๋ยที่ช่วยให้พืชผลมีผลผลิตตามเป้าหมาย บรรษัทข้ามชาติสัญชาตินอร์เวย์ผลิตปุ๋ยไนโตรเจนอย่าง ยารา อินเตอร์เนชันแนล (Yara International) ซึ่งดำเนินธุรกิจปุ๋ยในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ซื้อวัตถุดิบดิบสำคัญในการผลิตปุ๋ยจากรัสเซียและมีโรงงานผลิตขนาดใหญ่ในยูเครนที่เป็นพื้นที่สงคราม ก่อนหน้านี้ราคาปุ๋ยได้ปรับตัวสูงขึ้นอยู่แล้วจากราคาก๊าซในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้นได้กล่าวเตือนว่าจะเกิดภาวะการขาดแคลนปุ๋ยและราคาปุ๋ยจะพุ่งสูงขึ้น

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจหยุดสงครามไม่ได้แต่จะสร้างปัญหา Stagflation ในหลายประเทศ ด้านรัสเซียซึ่งเป็นฝ่ายถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรนั้น คาดว่าอัตราการขยายตัวของจีดีพีปีนี้จะติดลบเป็นตัวเลขสองหลัก โดยสถาบันการเงินชั้นนำของโลกรวมทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศประเมินว่าจะติดลบราว 12-18% การที่ระบบเศรษฐกิจรัสเซียถูกตัดขาดจากโลกภายนอกจะทำให้กระทบต่อภาคธุรกิจอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการค้าการลงทุนระหว่างประเทศอย่างมาก

และ คาดการณ์ว่า หากตลาดหุ้นรัสเซียเปิดทำการซื้อขายในสัปดาห์นี้หลังปิดมา 2 สัปดาห์แล้ว ดัชนีตลาดหุ้นรัสเซียโดยเฉพาะดัชนี MOEX Russia Index น่าจะปรับตัวลดลงมากกว่า 40-50% โดยทางการรัสเซียได้เตรียมเงินประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อพยุงตลาดหุ้น แต่ตนเชื่อว่า จะไม่สามารถประคับประคองได้เพราะกองทุน Emerging ETF ทั้งหลายจะเทขายหุ้นรัสเซียอย่างหนักหลังจากที่ MSCI ได้ถอดรัสเซียออกจากดัชนีการลงทุน ขณะที่กองทุนเหล่านี้ยังไม่สามารถเทขายได้เพราะตลาดหุ้นรัสเซียยังคงปิดทำการอยู่ กองทุนที่มีสัดส่วนของหุ้นรัสเซียมากกว่า 2% และไม่สามารถซื้อขายหุ้นได้ เป็น illiquid stocks ที่ไม่สามารถขายออกจากองทุนได้ จะประสบปัญหาผลการดำเนินงานของกองทุนในระยะต่อไป

นอกจากนี้ ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวจาก S&P Dow Jones Indices เตรียมเอาพันธบัตรรัสเซียทั้งหมดออกจาก Fixed Incomes Indexes ของสหรัฐอเมริกา การดำเนินการปิดกั้นเพิ่มเติมนี้จะทำให้ธุรกิจของรัสเซียไม่สามารถเข้าสู่ระบบการเงินโลกได้เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางของรัสเซียน่าจะยังไม่มีการเปิดซื้อขายเพื่อป้องกันความเสียหายต่อนักลงทุนท้องถิ่นชาวรัสเซียที่จะสูญเสียความมั่งคั่งจำนวนมาก ขณะเดียวกัน UK-Listed Russia Stocks ในตลาดหุ้นลอนดอนราคาหุ้นได้ดิ่งลงมากกว่า 90% ก่อนที่จะให้มีการหยุดการซื้อขาย (Suspense) ราคาหุ้นของบริษัทยุโรปที่มีธุรกิจและธุรกรรมกับเศรษฐกิจของรัสเซียค่อนข้างสูง มี Russia Market Exposure สูงได้สูญเสียมูลค่าตลาดไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา ส่วนการเปิดให้มีการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรา ตลาดเงินในรัสเซียได้แล้ว ตลาดจะมีความผันผวนอย่างรุนแรง และ เงินรูเบิลจะดิ่งลงอย่างต่อเนื่องและจะมีผลต่อค่าเงินในตลาดดาวรุ่งทางเศรษฐกิจ (Emerging Markets) รวมทั้งค่าเงินอาเซียนและเงินบาท ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯจะแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันได้เกิดภาวะขาดแคลนสินค้าหลายชนิดทั่วโลกไม่เฉพาะในพื้นที่สงครามอย่างยูเครนและรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเท่านั้น เช่น การขาดแคลนก๊าซธรรมชาติเหลว LPG และ LNG และราคาพุ่งสูงในหลายประเทศ ซึ่งภาวะดังกล่าวทำให้ กระทรวงพลังงานของไทยไม่สามารถชดเชยและอุดหนุนราคาได้เหมือนเดิมอีกต่อไปและต้องปล่อยให้ลอยตัว ราคาก๊าซ LPG และ LNG ที่พุ่งสูงนี้จะกระทบต่อประชาชนทั่วไปที่ต้องใช้ก๊าซนี้ในการหุงต้มและประกอบอาหาร ประชาชนทั่วโลกที่ไม่สามารถเข้าถึงน้ำประปา ไฟฟ้า ยารักษาโรคและอาหารได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อสงครามรัสเซียยูเครนก่อตัวขึ้น

นายอนุสรณ์ ได้ประเมินสถานการณ์สงครามรัสเซียยูเครนจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและโครงการก่อสร้างใหญ่ต่างๆของรัฐบาลไทย ทำให้ต้นทุนของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของราคาวัสดุการก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์เหล็กประเภทต่างๆ อาจมีผลทำให้โครงการก่อสร้างบางส่วนต้องชะลอลงเนื่องจากมีปัญหาการขาดแคลนผลิตภัณฑ์เหล็กประเภทต่างๆ และ สต๊อกผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยอยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนี้ยังมีราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายตัว แพลตินัม ทองคำขาว ทองแดง นิกเกิล ในตลาดโลกน่าจะปรับตัวสูงขึ้นเกือบทั้งหมดและประสบภาวะขาดแคลนในระยะต่อไปเพราะรัสเซียและยูเครนเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ในตลาดโลก นอกจากรัสเซียและยูเครนเป็นผู้ส่งออกก๊าซนีออนบริสุทธิ์เกือบ 70% ให้กับทั่วโลก ซึ่งใช้ในการแกะแบบแผงวงจรให้เป็นแผ่นซิลิคอนเวเฟอร์ (silicon wafer) เพื่อใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ เกิดผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ ปัญหาขาดแคลนชิปจะรุนแรงขึ้น ทำให้สินค้าอิเลคทรอนิกส์ราคาสูงขึ้น

การผลิตรถยนต์ มือถือ คอมพิวเตอร์อาจเกิดการชะงักงันได้ กระทบต่อการส่งออกรถยนต์และสินค้าอิเลคทรอนิกส์ของไทยและอาเซียนระดับหนึ่ง ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมควรต้องสต๊อกผลิตภัณฑ์เหล็ก ทองแดง เงิน ทองคำขาว (Palladium) และ แพลตตินัม ให้เพียงพอต่อการผลิต เนื่องจากคาดได้ว่าสงครามจะยืดเยื้อและมีผลกระทบของการชะงักงันของการผลิตได้หากไม่มีวัตถุดิบให้เพียงพอ ภาวการณ์ขาดแคลนแพลตตินัม (Platinum) จะกระทบต่ออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมพลังงาน แพลตตินัมยังใช้ในน้ำมันเบนซินเพื่อเพิ่มระดับออกเทนในน้ำมันเชื้อเพลิง ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เบ้าหลอมแพลตตินัมถูกนำมาใช้เพื่อทำผลึกเซมิคอนดักเตอร์สำหรับเลเซอร์ในขณะที่โลหะผสมใช้ทำดิสก์แม่เหล็กสำหรับฮาร์ดไดรฟ์ของคอมพิวเตอร์และสลับหน้าสัมผัสในการควบคุมยานยนต์ การยืดเยื้อของสงครามรัสเซียยูเครนจะมีผลกระทบมากเพราะองค์ความรู้ของมนุษยชาติเวลานี้ไม่สามารถผลิตสารสงเคราะห์ที่มาทดแทนแร่ธาตุเหล่านี้ได้

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า จะเกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างและอุตสาหกรรมที่ใช้เหล็กเป็นวัตถุดิบทั้งหมดทั่วโลกและไทย และ จะเกิดปัญหาการขาดแคลนเหล็กรุนแรงในระยะต่อไป เนื่องจากแหล่งผลิตและส่งออกเหล็กแหล่งอื่นๆไม่สามารถชดเชยแหล่งผลิตรัสเซียและยูเครนได้ในระยะสั้นและระยะกลาง ส่งผลกระทบต่อทั้งตลาดสินค้าเหล็ก และห่วงโซ่อุปทานวัตถุดิบสำหรับการผลิตสินค้าเหล็กทั่วโลก ทำให้ผู้ผลิตและใช้เหล็กต่างเร่งปรับตัวหาแหล่งวัตถุดิบอื่นทดแทน รัสเซีย และยูเครนเป็นประเทศผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ 5 และ 12 ของโลก สินค้าเหล็กจากทั้งรัสเซีย และยูเครนมีส่วนแบ่งตลาดราว 14% ของการส่งออกสินค้าเหล็กของทั้งโลก

โดยรัสเซียเป็นประเทศ ที่ส่งออกสินค้าเหล็กมากสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก (รองจากจีน และญี่ปุ่น) ขณะที่ยูเครนเป็นประเทศส่งออกสินค้าเหล็กอันดับ 8 ของโลก มีการส่งออกสินค้าเหล็ก จากรัสเซีย 30 ล้านตัน และยูเครนเกือบ 16 ล้านตัน ดังนั้น เหมืองแร่ และโรงงานเหล็กหลายแห่งในยูเครนต้องหยุดหรือลดการผลิต เช่น ในเมืองท่า Mariupol เมือง Zaporizhstal เป็นต้น ไทยนั้นนำเข้าเหล็กจากรัสเซียและยูเครนประมาณ 6-7% ซึ่งก็สามารถชดเชยโดยนำเข้าจากจีนแทน อย่างไรก็ตาม ต้นทุนและราคาจะสูงขึ้นเพราะขณะนี้จีนก็มีการควบคุมการผลิตและอาจขึ้นภาษีการส่งออกเพราะความต้องการในประเทศก็สูงเช่นเดียวกัน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มี.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top