น.ส.เบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ผลพวงจากสถานการณ์ราคาพลังงานและน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตปุ๋ยและการขนส่งปุ๋ย รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากต้นทุนการประกอบอาชีพเกษตรสูงขึ้น จึงต้องหาแนวทางช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้กับเกษตรกร และสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างยั่งยืน
โดยกรมพัฒนาที่ดิน ได้ดำเนินการส่งเสริมการใช้สารอินทรีย์ลดการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพจากวัสดุจากพื้นที่การเกษตรและครัวเรือน ช่วยลดต้นทุนการผลิต ทดแทนสารเคมีทางการเกษตรได้ โดยแนวทางการดำเนินงาน ได้แก่ การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน การใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง การใช้ปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ และการใช้ปุ๋ยพืชสด ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการผลิตปุ๋ยและวิธีการนำใช้ให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ให้มีปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงไว้ใช้เอง เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานฯ และต่อยอดขยายผลให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับแนวทางการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน โดยใช้ข้อมูลชุดดินผ่านแอปพลิเคชั่น LDD On Farm Land Use Planning ซึ่งเป็นบริการรูปแบบดิจิทัลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว หรือตรวจสอบคุณภาพดินโดยใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำการใช้ปุ๋ย โดยสหกรณ์ผสมปุ๋ยตามสูตรแนะนำ เพื่อให้เกษตรกรได้เรียนรู้และมีความเข้าใจลักษณะดินที่สอดคล้องกับชนิดของพืช โดยสามารถเลือกช่องทางการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน หรือใช้ข้อมูลพื้นฐานสนับสนุนการตัดสินใจ การปรับปรุงบำรุงดิน ส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยได้อย่างเหมาะสม ซึ่งการผสมปุ๋ยเคมีตามสูตรแนะนำช่วยลดต้นทุนโดยเฉลี่ย 15-20% สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ และให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง และการใช้ปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพจากผลิตภัณฑ์ พด.1-14 เพื่อผลิตปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพ รวมทั้งจุลินทรีย์กำจัดเชื้อในดิน เกษตรกรสามารถนำวัสดุจากพื้นที่เกษตรและครัวเรือนมาประยุกต์ใช้ในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อทดแทนปุ๋ยเคมีหรือใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมี โดยสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรลดใช้สารเคมีและสร้างการเรียนรู้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกันขึ้น พร้อมมอบปัจจัยการผลิต ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการผลิตปุ๋ย และวิธีการนำใช้ให้กับเกษตรกร พร้อมทั้งส่งเสริมให้มีการต่อยอดนำไปผลิตใช้ในพื้นที่ของตนเอง และมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น สร้างความเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองให้เกษตรกร อีกทั้งสามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนอีกด้วย
อีกหนึ่งทางเลือก คือ การใช้ปุ๋ยพืชสดเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน ช่วยเสริมให้โครงสร้างของดินดีขึ้น ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมี หรือใช้ทดแทนปุ๋ยเคมีได้ เหมาะสมกับพื้นที่ขนาดใหญ่ และพื้นที่เกษตรอินทรีย์ สำหรับชนิดของพืชปุ๋ยสดที่นิยมนำมาปรับปรุงบำรุงดิน ได้แก่ ปอเทือง ถั่วพร้า มะแฮะ เป็นต้น โดยสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดพร้อมให้การสนับสนุนการปลูกพืชปุ๋ยสดเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์และปลูกเพื่อไถกลบกลายเป็นปุ๋ยพืชสดที่ช่วยเพิ่มธาตุไนโตรเจนและอินทรียวัตถุในดินได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ จากสถานการณ์ภัยพิบัติ เช่น อุทกภัย พื้นที่เกษตรกรรมที่เกิดน้ำท่วม ผิวหน้าดินถูกชะล้าง ทำให้ดินมีปัญหา สามารถใช้ปุ๋ยพืชสดเพื่อฟื้นฟู ปรับปรุงบำรุงดินและเพิ่มอินทรียวัตถุในดินได้อีกด้วย
หากเกษตรกรหรือประชาชนที่กำลังประสบปัญหาปุ๋ยเคมีราคาแพง อยากจะลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มรายได้ในครัวเรือน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดทั่วประเทศ หรือโทรสายด่วน 1760
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 มี.ค. 65)
Tags: กรมพัฒนาที่ดิน, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ปุ๋ยอินทรีย์, ปุ๋ยเคมี, ราคาปุ๋ย, เกษตรกร, เบญจพร ชาครานนท์