แมคโดนัลด์, เป๊ปซี่โค, โคคา-โคลา และสตาร์บัคส์ ประกาศระงับการจำหน่ายสินค้าในรัสเซียแล้ววานนี้ (8 มี.ค.) เพื่อร่วมกันกดดันรัสเซียที่ยังไม่ลดละการทำสงครามกับยูเครน
แมคโดนัลด์ระบุว่า ทางบริษัทจะยังคงจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานกว่า 62,000 รายในรัสเซีย หลังจากที่สั่งปิดร้านค้าทั้ง 847 สาขา โดยแมคโดนัลด์สาขาแรกที่เปิดให้บริการในรัสเซียเมื่อปี 2533 ถือเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองของระบบทุนนิยมอเมริกันที่รุกเข้าสู่สหภาพโซเวียตที่กำลังล่มสลาย
ทั้งนี้ เป๊ปซี่และแมคโดนัลด์เป็นแบรนด์ที่ขายในรัสเซียมาแล้วหลายสิบปีตั้งแต่สมัยยังเป็นสหภาพโซเวียต โดยแมคโดนัลด์ซึ่งดำเนินธุรกิจในรัสเซียมาถึง 32 ปีนั้นมีสาขาในรัสเซียและยูเครนรวมกันกว่า 900 สาขา ซึ่งมียอดขายคิดเป็นสัดส่วน 2% ของร้านค้าทั่วโลก อีกทั้งยังทำรายได้ราว 9% ของรายได้ทั่วโลก และมีกำไรจากการดำเนินงานในสัดส่วนราว 3%
นายเจฟฟรีย์ ซันเนนเฟลด์ ศาสตราจารย์แห่งสถาบันการจัดการเยล ซึ่งได้ติดตามท่าทีของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีต่อรัสเซีย กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีที่พวกเขาตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง นี่ถือเป็นผลกระทบที่รุนแรง และเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่สำคัญ”
สตาร์บัคส์ คอร์ปได้ปิดสาขาในรัสเซียลงชั่วคราว ส่วนเป๊ปซี่โค อิงค์ จะระงับการโฆษณาในรัสเซียทั้งหมด รวมถึงงดจำหน่ายเครื่องดื่มของบริษัท แต่จะยังคงจำหน่ายสินค้าจำเป็น อาทิ นม และอาหารสำหรับทารก ส่วนโคคา-โคลา จะระงับการทำธุรกิจในรัสเซีย
อนึ่ง โคคา-โคลาเป็นแบรนด์เครื่องดื่มที่เป็นสปอนเซอร์หลักในการแข่งขันโอลิมปิก ณ กรุงมอสโกเมื่อปี 2523 ซึ่งขณะนั้นสหรัฐได้แบนการแข่งขันดังกล่าวเพื่อเป็นการประท้วงต่อการที่โซเวียตรุกรานอัฟกานิสถาน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มี.ค. 65)
Tags: รัสเซีย, สตาร์บัคส์, สตาร์บัคส์ คอร์ป, เจฟฟรีย์ ซันเนนเฟลด์, เป๊ปซี่โค, เป๊ปซี่โค อิงค์, แมคโดนัลด์, โคคา-โคลา