นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเชิงกลยุทธ์ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เปิดเผยว่า บริษัท คาดว่าจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ในปีนี้ จากปีก่อนมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติ 9.3 พันล้านบาท หลัง 3 ธุรกิจหลักฟื้นตัวดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไมเนอร์ โฮเทลส์, ไมเนอร์ ฟู้ด และไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์
สำหรับไมเนอร์ โฮเทลส์ ในทวีปยุโรปปัจจุบันหลายประเทศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นแล้ว และเริ่มเห็นการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจากการจองห้องพัก (Booking) เข้ามามากขึ้น โดย NH Hotel Group ยังคงรักษาอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยไว้ได้ดีตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ทำให้การฟื้นตัวของผลประกอบการของบริษัทน่าจะดีขึ้น
ส่วนในประเทศไทย ได้กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในรูปแบบ Test & Go อีกครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสจากทุกประเทศสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.65 และได้ยกเลิกเงื่อนไขในการตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 รวมถึงคาดว่าจะมีการผ่อนคลายเงื่อนไขเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้
ขณะเดียวกันโรงแรมในมัลดีฟส์ ผลประกอบการค่อนข้างดีกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19
สำหรับไมเนอร์ ฟู้ด ในประเทศไทย หลังจากผ่อนคลายล็อกดาวน์ บริษัทได้พยายามเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางบริการจัดส่งอาหาร และการนั่งรับประทานอาหารในร้าน ขณะที่ในจีน เริ่มเห็นยอดขายต่อสาขาเดิม (SSS) เป็นบวกตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังมีล็อกดาวน์ในบางท้องที่ โดยปีนี้ยังพึ่งพาเทคโนโลยีในจีนและการขยายสาขาเพื่อสร้างการเติบโต ส่วนในออสเตรเลียได้มีการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์สาขาให้มีความทันสมัยมากขึ้น และการปิดสาขาที่ไม่ทำกำไรในปีที่ผ่านมา ทำให้ปีนี้จะไม่มีการรับรู้ผลขาดทุนจากสาขาที่ไม่ทำกำไร
ไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์ ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยแม้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังชะลอตัว โดยจะยังคงดำเนินกลยุทธ์เพื่อผลักดันรายไดผ่านการขายในทุกช่องทาง การเลือกซื้อสินค้า การจัดการสินค้าคงเหลือ และดำเนินมาตรการการประหยัดค่าใชจ่าย เพื่อสร้างผลกำไรอย่างแข็งแกร่งต่อไป
นายชัยพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯ วางงบลงทุนปีนี้ไว้ประมาณ 6,400 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ รวมไปถึงการสร้างโรงแรมตามแผน โดย MINT ยังมีสถานะการเงินแข็งแกร่ง ณ สิ้นปี 64 บริษัทมีกระแสเงินสดที่ 2.5 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่ยังสามารถเบิกจ่ายได้อีก 3.3 หมื่นล้านบาท รวมไปถึงจะมีแผนการออกหุ้นกู้จำนวน 7 พันล้านบาท เพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดอายุในเดือนมี.ค.นี้
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/65 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จะเป็นช่วงของโลซีซั่นก็ตาม โดยสถานการณ์ในรัสเซีย และยูเครน คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบ เนื่องจากบริษัทไม่มีธุรกิจโรงแรม หรือร้านอาหารใน 2 ประเทศดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 65)
Tags: MINT, ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์, หุ้นไทย, ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล