นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในไตรมาส 4/64 ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง แต่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐที่เศรษฐกิจเข้าสู่วัฏจักรระยะกลาง (Mid Cycle) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงภาคการผลิตที่เกิดปัญหาห่วงโซ่อุปทานเกิดภาวะชะงักงัน (Supply Chain Disruption) จนทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นสูงขึ้นและกดดันให้ธนาคารกลางจำเป็นต้องใช้มาตรการทางการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น นอกจากนี้การแพร่ระบาดของ Omicron Variant ในช่วงปลายปีได้สร้างความกังวลและทำให้หลายประเทศจำเป็นต้องกลับไปใช้มาตรการที่เข้มงวดและปิดประเทศอีกครั้ง
ทั้งนี้ ตัวเลขการเติบโตเศรษฐกิจ (GDP) ทั่วโลกในปี 64 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.9% ในขณะที่มีการปรับคาดการณ์ตัวเลขของปี 65 ลดลงจาก 4.9% จากการประเมินในเดือน ต.ค.64 ลงสู่ระดับ 4.4% (ที่มา : World Economic Outlook Jan 2022)
ปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในระยะข้างหน้า ได้แก่ การเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้อและอยู่ในระดับสูง (Cost-Push Inflation) จากแรงกดดันจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานเกิดสภาวะชะงักงัน (Supply Chain Disruption) ซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินที่ต้องสอดคล้องการดำเนินนโยบายทางการคลัง เพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจนอกจากนี้การแพร่ระบาดของโควิด-19 กลายพันธุ์อย่าง Omicron Variant รวมถึงในอนาคตที่อาจจะมีการกลายพันธุ์ใหม่ๆ จนเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล ยังคงต้องติดตามต่อเนื่อง
ในส่วนของปัจจัยด้านการเมืองต้องติดตาม ผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึง การเลือกตั้ง Mid Term Election ของสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี 65 ซึ่งมีความเสี่ยงที่พรรค Democrats จะเสียเสียงข้างมากในสภาให้กับพรรค Republicans ในการเลือกตั้ง อาจทำให้การผ่านร่างนโยบายที่สำคัญในอนาคตทำได้ยากขึ้นกว่าเดิม
นายวนา กล่าวว่า เชื่อว่าการลงทุนในหุ้นยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้ว่าทิศทางการดำเนินนโยบายทางการเงินของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักมีแนวโน้มเข้มงวดขึ้น อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ปัจจัยเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำมาก ความน่าสนใจของการลงทุนในหุ้นเมื่อเทียบกับตราสารหนี้แล้วจึงมีมากกว่า รวมถึงการลงทุนในหุ้นยังสามารถส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นไปในรูปแบบของราคาสินค้าหรือบริการที่สูงขึ้นได้บางส่วนทำให้การลงทุนในหุ้นสามารถป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อได้ด้วยเช่นกัน (Inflation Hedged)
ประกอบกับ ณ ปัจจุบันตลาดได้รับรู้ (Priced-In) ความเสี่ยงจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปมากกว่า 4-5 ครั้งแล้วสะท้อนว่าโอกาสการปรับตัวลงเริ่มน้อยแต่คงเหลือประเด็นสำคัญอย่างการทำ Quantitative Tightening อย่างการลด Balance Sheet ที่ยังขาดความชัดเจนซึ่งอาจจะทำให้ตลาดมีการปรับฐานได้อีกครั้งจนกว่าจะมีความชัดเจนขึ้นในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 15-16 มี.ค.ที่จะถึงนี้
นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาธุรกิจ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า จากภาพรวมดังกล่าว แนะนำให้นักลงทุนอาศัยจังหวะที่มีการปรับฐานทยอยเข้าสะสมการลงทุนใน 5 กองทุน ดังนี้
1) การลงทุนในประเทศจีนที่ราคาหุ้นในปัจจุบันได้ซึบซับกับข่าวด้านลบในช่วงที่ผ่านมา และปัจจุบันเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงแนวนโยบายจากภาครัฐที่สนับสนุนตลาดมากขึ้นและคาดว่าตลาดจีนจะมีบรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้นในปี 2022 แนะนำลงทุนใน กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ออล ไชน่า อิควิตี้ ฟันด์ – หน่วยลงทุนชนิดเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (UCHINA) และ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไชน่า เอ แชร์ อินโนเวชั่น ฟันด์ – หน่วยลงทุนชนิดเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (UCI)
2) สำหรับนักลงทุนที่มีเป้าหมายการลงทุนในระยะกลาง-ยาว แนะนำอาศัยจังหวะที่มีการปรับฐานแรงทยอยสะสมการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผ่านกองทุนเปิด ยูไนเต็ด อิควิตี้ ซัสเทนเนเบิล โกลบอล ฟันด์ (UESG), กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ซัสเทนเนเบิล อิควิตี้ โซลูชั่น ฟันด์ – หน่วยลงทุนชนิดเพื่อผู้ถือหน่วยลงทุนทั่วไป (USUS) ที่ลงทุนในธีมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิด ESG รวมถึง กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินโนเวชั่น ฟันด์ (UNI) ที่เน้นการลงทุนในหุ้นที่เป็นนวัตกรรมการดำเนินงานในอนาคต
นายวนา กล่าวว่า แม้ว่าในปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ด้วยตัวเลขของการฉีดวัคซีนที่ปรับตัวสูงขึ้น และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศทำให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตามยังคงมีหลายปัจจัยที่ต้องติดตามระมัดระวัง ดังนั้น บลจ.ยูโอบี ยังคงแสวงหาโอกาสการลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนทางเลือกใหม่ๆ ให้กับนักลงทุน
ล่าสุด บลจ.ยูโอบี ได้ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการพัฒนากองทุน ETF รูปแบบใหม่ในเดือน ม.ค.65 ที่ผ่านมา เป็นกองทุนที่สามารถลงทุนได้ทั้งผ่านตลาดหลักทรัพย์และผ่านตัวแทนจำหน่าย โดยกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ฮีโร่ อีทีเอฟ (UHERO) เป็น Thematic ETF กองแรกในไทย ที่มาพร้อมโอกาสการลงทุนลงทุนในเกมและอีสปอร์ตที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยต้องการให้นักลงทุนไทยได้มีโอกาสเข้าถึง ETF ได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องนำเงินไปซื้อกองทุนในต่างประเทศโดยตรง และมีการจัดการความเสี่ยงเรื่องค่าเงินจากการลงทุนผ่านนโยบายของกองทุน มากไปกว่านั้น ยังเป็น ETF กองทุนแรกที่ขยายช่องทางการลงทุน โดยรองรับช่องทางการซื้อขายทั้งจากนักลงทุนที่มีบัญชีซื้อขายหุ้น สามารถลงทุนได้ผ่านโบรกเกอร์ และนักลงทุนที่มีบัญชีซื้อขายกองทุนรวม ก็สามารถเข้าถึงการลงทุน UHERO ผ่านตัวแทนจำหน่ายได้อีกด้วย
นอกจากนี้การลงทุนในธุรกิจที่มีแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน หรือ ESG ซึ่งย่อมาจาก Environment, Social, และ Governance เป็นกระแสที่ บลจ.ยูโอบี เห็นว่าเริ่มมีนักลงทุนให้ความสนใจบนพื้นฐานความเชื่อว่า การสร้างสมดุลในการอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมและสังคมได้ จะส่งผลให้บริษัทมีความสามารถในการสร้างผลกำไรในระยะยาวได้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำของกลุ่มยูโอบีในภูมิภาค เพื่อปรับขั้นตอนการลงทุนให้คำนึงถึงหลักเกณฑ์ของธุรกิจ ESG ที่เป็นไปตามแนวทางของ PRI (Principles for Responsible Investment) เข้ามาประกอบการตัดสินใจในการบริหารกองทุน ปัจจุบันเรามีการนำเสนอกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจ ESG ผ่านกองทุนรวมสำหรับลูกค้ารายย่อย กองทุนส่วนบุคคลสำหรับลูกค้าสถาบัน และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมไปถึงกองทุนรวมที่มีอยู่แล้วและได้มีการปรับกระบวนการลงทุนตามแนวทาง ESG
อีกทั้งกลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการลงทุนเพื่อความยั่งยืนหลายแห่ง ในการใช้ประสบการณ์และกระบวนการลงทุนโดยคำนึงถึงปัจจัยและแนวทาง ESG อย่างเข้มงวด ผ่านกองทุนที่เรานำเสนอให้กับนักลงทุนทั่วโลก สำหรับ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) ในฐานะบริษัทย่อยของกลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี ที่ร่วมยึดมั่นตามวิสัยทัศน์อย่างแข็งแกร่ง และเป็นหนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแรกๆ ในประเทศไทยที่ปฏิบัติตามแนวทางของ PRI เกี่ยวกับการบูรณาการปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ในกระบวนการลงทุนนั้น
ด้านการพัฒนาระบบซื้อขายกองทุนออนไลน์ ทาง บลจ.ยูโอบี ได้ริเริ่มพัฒนา Mobile application “UOBAM INVEST” และบนเว็บไซต์ผ่านระบบ Premier online ในช่วงหลายปีที่ผ่าน และได้ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องกับการคิดค้นและพัฒนาบริการ เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้นักลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการลงทุนมาทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์กันมากขึ้น มากไปกว่านั้น ตอกย้ำความสำเร็จความผู้นำด้านดิจิตอล บลจ.ยูโอบี ได้รับรางวัล Best Digital Wealth Management จาก Asia Asset Management ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 อีกด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มี.ค. 65)
Tags: กองทุน, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ตลาดหุ้นไทย, บลจ.ยูโอบี, รัชดา ตั้งหะรัฐ, วนา พูลผล, หุ้นไทย, เศรษฐกิจโลก