ราคาหุ้นบริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากมีความวิตกเพิ่มขึ้นว่ารัสเซียจะทำการโจมตีทางไซเบอร์ หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียได้ออกมาเตือนว่าจะตอบโต้ประเทศต่าง ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือยูเครน
รัฐบาลทั่วโลกได้พากันคว่ำบาตรรัสเซียหลังจากใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน โดยรัสเซียถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการทำสงครามไซเบอร์โดยมีรัฐบาลเป็นผู้หนุนหลัง ขณะที่ปธน.ปูตินเคยเตือนบรรดาประเทศที่คิดจะขัดขวางการทำสงครามของรัสเซียว่าอาจจะเจอกับ “ผลลัพธ์ที่รุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์”
เว็บไซต์มาร์เก็ตวอตช์ระบุว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่รัสเซียจะใช้วิธีการโจมตีทางไซเบอร์นั้น เป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นบริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งรวมถึงหุ้น ETFMG Prime Cyber Security ETF และหุ้น Crowdstrike ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
ไบรอัน เครบส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์กล่าวว่า รัสเซียอาจจะใช้สงครามไซเบอร์เป็นอาวุธตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก ซึ่งจะส่งผลให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากขึ้น เช่นเดียวกับในปีที่แล้วที่เหตุการณ์โจมตีทางไซเบอร์ได้สร้างความเสียหายต่อภาคอุตสาหกรรมและสาธารณูปโภคพื้นฐานของสหรัฐ ซึ่งรัสเซียถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ก่อเหตุโดยมีรัฐบาลเป็นผู้หนุนหลัง
ทั้งนี้ บริษัทที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อป้องกันภัยโจมตีทางไซเบอร์จากรัสเซียนั้น ได้แก่ บริษัท Palo Alto Networks Inc., บริษัท Zscaler Inc., บริษัท CrowdStrike Holdings Inc., บริษัท Fortinet Inc., บริษัท Mandiant Inc. และบริษัท Palantir Technologies Inc.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มี.ค. 65)
Tags: ความปลอดภัยทางไซเบอร์, รัสเซีย, วลาดิเมียร์ ปูติน, สงครามไซเบอร์, สหรัฐ, โจมตีทางไซเบอร์