น้ำมัน WTI พุ่งกว่า 5%, ทองฟิวเจอร์พุ่ง 1.3% หลังปูตินสั่งกองทัพนิวเคลียร์เตรียมพร้อม

ราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นกว่า 5% ขณะที่ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 1.3% ในช่วงเช้านี้ หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้สั่งการให้กองกำลังป้องปรามด้วยอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Deterrent Forces) เตรียมพร้อมในระดับสูงสุด เพื่อรับมือกับบรรดาชาติพันธมิตรขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ส่งสัญญาณอันแข็งกร้าวว่าจะตอบโต้รัสเซีย หลังจากที่รัสเซียตัดสินใจบุกยูเครน

  • ณ เวลา 07.19 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 4.95 ดอลลาร์ หรือ 5.4% แตะที่ 96.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 24.80 ดอลลาร์ หรือ 1.31% แตะที่ 1,912.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ราคาน้ำมันและราคาทองฟิวเจอร์ทะยานขึ้นในช่วงเช้านี้ ท่ามกลางความกังวลที่ว่ารัสเซียอาจจะถูกคว่ำบาตรรุนแรงมากขึ้นอีก หลังจากปธน.ปูตินได้สั่งการให้กองกำลังป้องปรามด้วยอาวุธนิวเคลียร์เตรียมพร้อมในระดับสูงสุด หลังจากบรรดาชาติพันธมิตรขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ส่งสัญญาณอันแข็งกร้าวว่าจะตอบโต้รัสเซีย ซึ่งรวมถึงการตอบโต้ด้วยมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ หลังจากที่รัสเซียตัดสินใจบุกยูเครน

ปธน.ปูตินได้ออกแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลรัสเซียวานนี้ว่า “ท่านได้เห็นแล้วว่า ไม่เพียงแต่ชาติตะวันตกเท่านั้นที่ใช้มาตรการที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซียโดยเฉพาะมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของนาโตยังได้ใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าวทุกครั้งที่กล่าวถึงรัสเซีย”

นางลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ (UN) กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ “Face the Nation” ของสำนักข่าวซีบีเอสว่า การกระทำของปธน.ปูตินถือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ และยังเป็นการเพิ่มความขัดแย้งให้ลุกลามบานปลาย นอกจากนี้ นางโธมัส-กรีนด์ฟิลด์กล่าวว่า สหรัฐอาจจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อรัสเซีย

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (26 ก.พ.) สหรัฐพร้อมด้วยชาติพันธมิตรแห่งโลกตะวันตก เห็นพ้องกันที่จะตัดธนาคารรัสเซียบางแห่งออกจากระบบ SWIFT ซึ่งเป็นตัวกลางสำหรับการโอนเงินข้ามประเทศ ซึ่งจะทำให้รัสเซียได้รับผลกระทบทางการเงินอย่างหนัก

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ชาติพันธมิตรตะวันตก ได้แก่ คณะกรรมาธิการยุโรป (EU) ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สหราชอาณาจักร แคนาดา และสหรัฐ ร่วมกันออกแถลงการณ์ว่า “การดำเนินการเหล่านี้จะเป็นการสร้างหลักประกันว่า ธนาคารรัสเซียจะถูกตัดออกจากระบบการเงินสากล ส่งผลให้ไม่สามารถทำธุรกรรมในระดับโลกได้”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 65)

Tags: , , , , , ,
Back to Top