หุ้นไทยปิดพุ่ง 17.18 จุดรีบาวด์หลังคลายกังวลสถานการณ์ยูเครน แนะเกาะติดสถานการณ์

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,679.90 จุด เพิ่มขึ้น 17.18 จุด (+1.03%) มูลค่าการซื้อขาย 87,772.73 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์กลับพุ่งแรงหลังจากนักลงทุนคลายกังวลสงครามรัสเซียกับยูเครนไม่ขยายเป็นวงกว้าง โดย NATO และชาติตะวันตกไม่ตอบโต้ทางทหารแต่ใช้มาตรการคว่ำบาตทางเศรษฐกิจ แต่ยังวางใจไม่ได้ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อ และสัปดาห์หน้าก็จับตาถ้อยแถลงของประธานเฟด วันที่ 2-3 มี.ค. และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อย่างตัวเลขการจ้างงาน แนวโน้มสัปดาห์หน้าแกว่งตัวกรอบกว้าง โดยให้แนวรับที่ 1,670 จุด แนวรับถัดไป 1,660 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,695, 1,700 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,679.90 จุด เพิ่มขึ้น 17.18 จุด (+1.03%) มูลค่าการซื้อขาย 87,772.73 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นสอดคล้องตลาดภูมิภาค โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,684.50 จุด และลงไปลึกถึงระดับต่ำสุดที่ 1,670.13 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,304 หลักทรัพย์ ลดลง 599 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 508 หลักทรัพย์

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ รีบาวด์ได้หลังคลายกังวลสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนไม่ได้ขยายเป็นวงกว้าง หลังชาติตะวันตก และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO)ไม่ใช้กำลังทหารตอบโต้ มีแต่มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม มองว่าตลาดยังมีความไม่แน่นอนสูงอยู่ นักลงทุนยังต้องติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน และในสัปดาห์หน้าก็ยังมีปัจจัยอื่นรออยู่ โดยมีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะแถลงนโยบายการเงินรายครึ่งปีต่อคณะกรรมการด้านบริการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและวุฒิสภา ในวันที่ 2-3 มี.ค. ขณะที่คืนนี้มีตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค.ของสหรัฐ

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายอภิชาติ เห็นว่ายังมีความผันผวนตามสถานการณ์ความตึงเครียดรัสเซียและยูเครน หากมีพัฒนาการเชิงบวกตลาดจะปรับขึ้น มองว่าตลาดจะแกว่งตัวไซด์เวย์กรอบกว้าง

โดยให้แนวรับที่ 1,670 จุด แนวรับถัดไป 1,660 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,695, 1,700 จุด แต่ก็คาดไม่น่าผ่านแนวต้านหลักที่ 1,700 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,412.17 ล้านบาท ปิดที่ 163.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
  • CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,206.71 ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
  • OSP มูลค่าการซื้อขาย 2,212.55 ล้านบาท ปิดที่ 35.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
  • PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,815.71 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
  • BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,786.87 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.พ. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top