นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ (SCM) เปิดเผยว่า ในปี 65 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตในอัตรา 50% ผ่านการขับเคลื่อนด้วย 4 กลยุทธ์หลัก คือ
- Leverage Brand Energy การยกระดับพลังแบรนด์องค์กรและสินค้าให้สามารถขยายกลุ่มเป้าหมายและสร้างแบรนด์เลิฟเวอร์ วางเป้าขยายฐานลูกค้า แตะระดับ 150,000 ราย จากปัจจุบัน 120,000 ราย และหากรวมดีลเลอร์จากต่างประเทศ ทำให้ยอดรวมแตะ 250,000 ราย
- Driving Digital ขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัลในทุกๆ ฝ่ายงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานและเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการขยายตลาด
- Create Online & Offline Breakthrough System สร้างและผสมผสานระบบ Offline และ Online ที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันเพื่อให้รองรับและเติมเต็มจุดอ่อนจุดแข็งของทั้ง 2 ระบบ และ
- Customer Experience Management การบริหารจัดการประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์ของลูกค้า
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 ระดับ คือ ระดับที่ 1 เป็นการออกใหม่ตามแผน Redesign และ Reformular เพื่อให้มีดีไซน์ที่ทันสมัยและสูตรที่อัปเดตกว่า โดยเน้นพัฒนาในกลุ่มของใช้ส่วนตัวเป็นหลักก่อน เช่น โรลออน น้ำยาซักผ้าปรับผ้านุ่ม และเมาท์สเปรย์ เป็นต้น และระดับที่ 2 กลุ่มอาหารเสริมสุขภาพ ซึ่งจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ช่วยป้องกันและฟื้นฟูเรื่องภูมิแพ้ ผลิตภัณฑ์วิตามินรวมที่ช่วยดูแลสุขภาพของกลุ่ม Silver Age
รวมถึงการโฟกัสปั้น 3 รายการที่ช่วยดูแลสุขภาพเฉพาะทางที่ออกจำหน่ายเมื่อปลายปีที่แล้ว คือ ผลิตภัณฑ์ Probiotic ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน รักษาสมดุลในลำไส้ ผลิตภัณฑ์ป้องกันมะเร็ง และผลิตภัณฑ์ป้องกันเบาหวาน
พร้อมกันนี้ บริษัทฯได้มีนโยบายขยายตลาด OEM อาหารเสริมสุขภาพ เพื่อเพิ่มผลประกอบการให้กับบริษัทลูก คือ บริษัท บริษัท เอสซีเอ็ม อินโนเวทีฟ จำกัด (SMI)
บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายตลาดในประเทศ โดยมุ่งเน้นไปที่หัวใจของการสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยใช้กลยุทธ์ฝ่ายขายและการตลาด ได้แก่ 1.เพิ่มความแข็งแรงของช่องทางดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งตีคู่กับช่องทางออฟไลน์เดิม 2. เน้นขยายฐานสมาชิกผ่านการปั้นผู้นำหรือผู้แทนธุรกิจในแต่ละภูมิภาค และเน้นเพิ่ม % Active และเพิ่มยอดซื้อต่อบิล และ 3.พัฒนาระบบ CDP เพื่อให้สามารถบริหารระบบการรักษาการซื้อต่อเนื่องของลูกค้าจนไปถึงการสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น
ขณะที่ตลาดส่งออกมีเป้าหมายขยายไปสู่ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ รวมถึงตลาดอเมริกา และออสเตรเลียอีกด้วยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/65
สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 64 บริษัท มีรายได้รวม 1,283.6 ล้านบาท เติบโต 24.7% จากปี 63 ที่มีรายได้รวม 1,029.49 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 217.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 239.9% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 64.02 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS) 0.36 บาทต่อหุ้น ถือเป็นการทำผลการดำเนินงานที่เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (New High) นับตั้งแต่ที่มีการก่อตั้งบริษัทฯ มาจากยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นกลุ่มผู้บริโภครายใหม่ที่ใส่ใจในการดูแลสุขภาพ และกลุ่มลูกค้าเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร รวมถึงได้จัดกิจกรรมทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภครับรู้ถึงแบรนด์มากขึ้น
ทั้งนี้ รายได้จากการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น 235.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 26% ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทเดินหน้าทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องกว่า 9 ผลิตภัณฑ์ (SKUs) ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ Nutriga Su-Rin (เสริมอาหารป้องกันเบาหวาน), Nutriga Canza (เสริมอาหารป้องกันมะเร็ง), Phytovy ดีท็อกซ์ลำไส้, Oxy Quick Triple Action ผงซักฟอกสูตรเข้มข้น และผลิตภัณฑ์ Skincare จากน้ำมันเมล็ดกัญชง ทั้งในรูปแบบของเซรั่ม Essence และครีม เป็นต้น ถือเป็นการขยายฐานตลาดผู้บริโภคให้หลากหลายโดยเฉพาะในโซนยุโรป และอเมริกา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.พ. 65)
Tags: SCM, ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์, นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร, หุ้นไทย