นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) เปิดเผยว่า บริษัทคาดยอดขายยางมะตอยในปี 65 จะเท่ากันกับปี 64 ที่ทำได้ 1.24 ล้านตัน โดยจะให้ความสำคัญกับการขายในตลาดรีเทลที่ให้ราคาดี เพื่อทำกำไร ขณะที่การขายส่วนใหญ่ยังเป็นตลาดในประเทศ ราว 5 แสนราว ซึ่งตลาดในประเทศปีนี้ยังดีต่อเนื่อง จากเงินงบประมาณที่เริ่มจัดสรรลงมาให้กับส่วนราชการในเดือนก.พ.นี้ ทำให้มองว่าช่วงพีคซีซั่นของตลาดในประเทศจะอยู่ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ และครึ่งปีหลังก็จะอ่อนตัวลงไปตามปัจจัยฤดูกาล
ปัจจุบันบริษัทมีน้ำมันดิบเพียงพอต่อการกลั่นยางมะตอยถึงปลายไตรมาส 2/65 และมีแผนซื้อน้ำมันดิบเข้ามาอีก 4 ลำเรือ หรือคิดเป็นไตรมาสละ 1 ลำเรือ ประมาณ 4-8 แสนบาร์เรล/ลำเรือ เพื่อให้ขายยางมะตอยให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ยอมรับว่าปัจจุบันยังไม่สามารถซื้อน้ำมันดิบเข้ามาได้ เพราะราคาน้ำมันดิบขณะนี้ค่อนข้างสูง จึงต้องรอดูทิศทางราคาน้ำมันดิบอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำมันดิบยังคงสูงต่อเนื่อง จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนระหว่างรัสเซียและยูเครน ก็จะส่งผลต่อต้นทุนสูงขึ้น จนทำให้ไม่สามารถซื้อน้ำมันดิบได้ ก็อาจจะกระทบต่อยอดขายยางมะตอยไม่เป็นไปตามเป้าหมาย หรือลดลงเหลือ 1 ล้านตัน จากเป้าหมายดังกล่าว
“เราไม่คาดคิดว่าตอนปลายปี 64 ราคาน้ำมันดิบจะเฉลี่ยอยู่ที่ 80 เหรียญฯ/บาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงมาก และจากปลายปีก่อนจนถึงต้นปีนี้ ราคาน้ำมันดิบยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดอยู่ราว 96 เหรียญฯ/บาร์เรล เข้าใกล้ 100 เหรียญฯ/บาร์เรลไปแล้ว ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เราต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการวางแผนการดำเนินธุรกิจ เพราะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่วิ่งขึ้นสูง ถ้าเราไปซื้อน้ำมันดิบจากแหล่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่แหล่งปกติของเราที่ปัจจุบันก็ยังซื้อไม่ได้ จะทำให้ต้นทุนยางมะตอยของเราสูงมาก และบางแหล่งที่เราจะซื้อก็ซื้อไม่ได้ เพราะจะทำให้ต้นทุนเราสูงมากจนขนาดขาดทุน จึงเป็นเหตุผลว่าปีนี้เราตั้งเป้ายอดขายยางมะตอยเท่ากันกับปีก่อน ซึ่งเราต้องซื้อน้ำมันดิบเข้ามาให้เพียงพอต่อการป้อนเข้าโรงกลั่น และให้มียางมะตอยออกมาเพียงพอในต้นทุนที่รับได้”
นายชัยวัฒน์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.พ. 65)
Tags: TASCO, ชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์, ทิปโก้แอสฟัลท์, ยางมะตอย, หุ้นไทย