จุรินทร์ แจงสภาฯ ยันบริหารราคาสินค้าหลายรายการได้ดี ไม่ถึงขั้นแพงทั้งแผ่นดิน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงปัญหาสินค้าราคาแพงว่า ราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น มีปัจจัยสำคัญมาจากราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งราคาน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญต่อการปรับขึ้นค่าขนส่งถึง 40% โดยประมาณ ดังนั้นค่าขนส่งที่ปรับเพิ่มขึ้นมากในช่วงที่ราคาน้ำมันแพงนั้น จึงมีผลกระทบต่อราคาสินค้า และอัตราเงินเฟ้อของทั่วโลกไม่เฉพาะประเทศไทย

ทั้งนี้ สถานการณ์เงินเฟ้อของไทยยังถือว่าดีกว่าหลายประเทศทั่วโลก โดยเมื่อปี 64 ภาวะเงินเฟ้อของไทยเป็นบวกอยู่ที่ 1.23% เมื่อเทียบจากการจัดอันดับทั้งหมด 177 ประเทศ ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 154 แสดงให้เห็นว่ามีประเทศที่เงินเฟ้อต่ำกว่าไทยแค่ 23 ประเทศ แต่ที่เหลืออีก 153 ประเทศสูงกว่าไทยทั้งสิ้น

“ในปี 64 ราคาสินค้าของไทยที่สูงขึ้นจริงๆ มีแค่หมวดเดียว คือ ขนส่ง โดยค่าเงินเฟ้อของขนส่งสูงขึ้น 7.74% เพราะราคาน้ำมันที่แพง ส่วนที่เหลือต่ำลงทั้งหมด ดังนั้น หากจะใช้คำว่าแพงทั้งแผ่นดิน ก็ไม่ตรงกัน” นายจุรินทร์ กล่าว

สำหรับราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่เดือนม.ค. 65 จนส่งผลกระทบต่อประชาชน เกิดจากการจับจ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งราคาสินค้าจะสูงขึ้นทุกปี ทำให้ภาวะเงินเฟ้อในเดือนม.ค. 65 บวก 3.23% อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับ 19 ประเทศทั่วโลก ที่ประกาศเงินเฟ้อในเดือนม.ค. 65 ก็มีถึง 15 ประเทศที่สูงกว่าไทย

ทั้งนี้ รัฐบาลก้ได้มีมาตรการในการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงทั้งการตรึงราคาสินค้า ไม่ให้ขึ้นราคา เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซอสปรุงรส อาหารกระป๋อง ข้าวสาร นม กระดาษ เหล็ก ยา น้ำมันพืช เป็นต้น สำหรับเรื่องไข่ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นในวันที่ 9 ม.ค. 65 กระทรวงพาณิชย์สามารถแก้ปัญหาภายใน 3 วัน ส่วนเรื่องไก่ที่ประชาชนเป็นห่วงว่าเมื่อหมูราคาแพง ราคาไก่ก็จะเพิ่มขึ้นนั้น ราคาไก่ก็ไม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ประกาศให้ราคาไก่เป็นสินค้าควบคุมทันทีที่ราคาหมูแพง ไม่ให้เกิดการฉวยโอกาส

อย่างไรก็ตาม สำหรับราคาน้ำมันปาล์มขวดมีราคาสูงขึ้นจริง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาราคาผลปาล์มดิบ อดีตราคาผลปาล์ม 2-3 บาท/กิโลกรัม หลังจากการบริหารจัดการในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ราคาปาล์มสูงขึ้นแตะ 9-12 บาท/กิโลกรัม ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ หรือตลาดโลกเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตร และเกษตรกรร่วมมือกัน เช่น พาณิชย์ห้ามนำเข้าน้ำมันปาล์มทางบก ส่งเสริมการส่งออก พาณิชย์ร่วมกับกระทรวงพลังงานกำหนด B7 B10 เป็นต้น ในขณะเดียวกันก็มาจากที่ประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซียประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน จึงทำให้ไทยได้ประโยชน์จากส่วนนี้ด้วย

ดังนั้น ราคาผลปาล์มที่เพิ่มสูงขึ้น จึงส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตน้ำมันปาล์มสูงขึ้น และราคาน้ำมันปาล์มขวดก็สูงขึ้นตาม อย่างไรก็ดี ยังสามารถกำกับราคาได้อยู่ ซึ่งปกติแล้วหากราคาผลปาล์มอยู่ที่ 11 บาท/กิโลกรัม ราคาน้ำมันปาล์มขวดก็ต้องขึ้นไปถึง 72.50 บาทแล้ว แต่พาณิชย์ยังสามารถล็อกไว้ที่ 59-62 บาทต่อขวดได้อยู่

อย่างไรก็ตาม หากกดราคาน้ำมันปาล์มขวดให้ต่ำกว่านี้ประมาณ 55 บาท/ขวด ผู้ประกอบการก็จะไม่มีกำไร และขาดทุนไปเรื่อยๆ สุดท้ายปัญหาใหม่ก็จะตามมา คือ ผู้ประกอบการหยุดผลิต น้ำมันปาล์มขาดตลาด ดังนั้นจึงต้องรักษาสมดุลให้กับทุกฝ่าย

“ประเทศไทยราคาสินค้าไม่สูงมาก เงินเฟ้อไม่สูงมาก ราคาสัตว์น้ำ และราคาผักก็ปรับลงมากว่า 40% ในช่วงเทศกาลตรุษจีนยกเว้นสินค้าบางตัวที่ต้องยอมรับความจริงว่าแพงก็คือ หมู” นายจุรินทร์ กล่าว

สำหรับเรื่องราคาหมูที่มีราคาแพง ทั้งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งกระทรวงการคลัง ก็จับมือร่วมกันแก้ปัญหา โดยสาเหตุที่หมูราคาแพงมาจากโรคระบาด ซึ่งในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานี้ ไทยสูญเสียแม่พันธุ์หมูไป 30-40% โดยปกติหมูจะเข้าสู่ระบบปีละ 19-20 ล้านตัว แต่ปี 65 คาดว่าปริมาณหมูที่เข้าสู่ตลาดจะอยู่ที่ 13-14 ล้านตัว ดังนั้น การที่หมูราคาสูงขึ้นนั้นถือเป็นกลไกทางตลาด ซัพพลายผลผลิตหายไป ในขณะที่ดีมานด์เท่าเดิม นอกจากนี้ ในช่วง 3-4 เดือนก่อน เกษตรกรบางส่วนพักเล้า พักเลี้ยง เนื่องจากไม่คุ้มทุน ส่งผลให้ต้นทุนเลี้ยงหมูเพิ่มขึ้น 14% ซึ่งทำให้ราคาสุกรมีชีวิตเพิ่มสูงขึ้น

ส่วนทางแก้ของรัฐบาล เมื่อรู้ว่าเป็นกลไกตลาด หมูขาดตลาด สิ่งที่แก้ตรงๆ คือ เร่งผลิตหมูสู่ระบบ เข้าสู่ภาวะสมดุลเร็วที่สุด ซึ่งต้องใช้เวลา 5-8 เดือน ถึง 1 ปี ด้านกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรฯ ระบุว่าจะเร่งผลิตหมูให้เร็วที่สุด 300,000 ตัว ด้านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระทรวงการคลัง ก็ได้แจ้งในที่ประชุม จัดเงินกู้ในเงื่อนไขพิเศษ ให้ผู้เลี้ยงหมูรายย่อยที่เลิกไปหันกลับมาเลี้ยงหมูอีก ด้วยวงเงิน 30,000 ล้านบาท

ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการหารือคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) โดยมีมติทันที คือ ห้ามส่งออกทั้งหมูเป็นและหมูแช่เย็น 3 เดือน ขณะเดียวกันก็ได้บูรณาการกับฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจ มหาดไทย ดำเนินการตรวจสต็อกหมูทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการกักตุนขายในราคาที่สูงขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ดี ยังไม่สามารถดำเนินคดีได้ว่าผู้ใดกักตุนเข้าข่ายผิดกฎหมายบ้าง แต่มีผลทำให้ห้องเย็นนำหมูออกมาขายในตลาด เพราะกลัวผิดพลาดหากถูกกล่าวหาว่ากักตุนที่ต้องโทษจำคุกหนัก ทำให้หมูไหลออกสู่ระบบเร็วขึ้น ซึ่งทำให้ราคาไม่พุ่งสูงขึ้นไป และราคาเริ่มลงมา โดยล่าสุด จากการตรวจสต็อกหมูพบความผิดทั้งหมด 38 คดี ทั้งความผิดฐานไม่แจ้งปริมาณครอบครองหรือไม่แจ้งภายในกำหนดเวลา, ไม่ขออนุญาตประกอบกิจการห้องเย็นรับฝากสินค้า, ไม่แสดงปริมาณของสินค้าบนบรรจุหีบห่อ และไม่ขออนุญาตขนย้าย

นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวถึงกรณีราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำนั้น ในภาพรวมขณะนี้ดีขึ้นเกือบทุกชนิด เช่น ข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น ในขณะที่ราคาผลไม้ก็ราคาดี เช่น ทุเรียน มังคุด มะพร้าว ลองกอง เป็นต้น อย่างไรก็ดี หากพืชทางการเกษตรใดราคาตกลง ก็ยังมีการประกันรายได้เกษตรกรมาช่วย ซึ่งประกันรายได้เอื้อเกษตรกรโดยตรง ไม่ได้เอื้อนายทุน ถ้าราคาสินค้าตก ก็โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกร

ส่วนเรื่องปุ๋ยราคาแพงนั้น นายจุรินทร์ ยอมรับว่าราคาแพงจริง เนื่องจากปัญหาราคาน้ำมันแพง ซึ่งประสบปัญหากันทั่วโลก ประกอบกับน้ำมันก็เป็นต้นทุนการขนส่งของปุ๋ยด้วย ราคาปุ๋ยที่แพงตั้งแต่ช่วงปลายปี 64 ถึงปี 65 ซึ่งเกิดจากประเทศผู้ผลิตโดยเฉพาะประเทศจีนเก็บปุ๋ยไว้ใช้ในประเทศ และลดการผลิตก่อนเข้าโอลิมปิกฤดูหนาว ด้านประเทศอินเดียก็ประมูลปุ๋ยล็อตใหญ่ จึงมีปุ๋ยปริมาณมากไปกองอยู่ที่อินเดีย ทำให้ตลาดขาดสินค้า และส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ

อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์พยายามตรึงราคากับผู้นำเข้าปุ๋ย 19 บริษัท ไม่ให้ปรับราคาขึ้นไป และกดราคาในระดับที่ไม่ให้ผู้นำเข้าต้องเดือดร้อนมากนัก เพราะหากผู้นำเข้าขาดทุน ไม่นำเข้าปุ๋ย ก็จะเกิดปัญหาปุ๋ยขาดแคลน ขณะเดียวกันยังได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรฯ ตรึงราคาปุ๋ยเคมีในปี 64 ทั้งนี้ แนวโน้มราคาปุ๋ยทั่วโลกอาจปรับลดลงมา เพราะประเทศจีนจะเริ่มผลิตปุ๋ยมากขึ้นหลังช่วงโอลิมปิดฤดูหนาว และประเทศอินเดียประมูลปุ๋ยในราคาต่ำในปีนี้ ซึ่งจะชี้นำราคาปุ๋ยในตลาด ประกอบกับหลายประเทศชะลอการซื้อปุ๋ยเนื่องจากมีราคาแพง

สำหรับเรื่องการส่งออกผลไม้ไปประเทศจีน ปกติประเทศไทยส่งผลไม่ไปจีน 3 ช่องทาง คือ ทางเรือ 50% ทางบก 40-50% และที่เหลือส่งทางอากาศ โดยในปี 64 มีปัญหาในการขนส่งทางบกทั้ง 4 ด่าน เนื่องจากนโยบายปัญหาโควิด-19 ของจีน คือ ซีโร่โควิด ทำให้การขนส่งผลไม้ไปจีนติดขัด แต่ปัจจุบันด่านทั้ง 4 แห่งสามารถเปิดได้ปกติแล้ว แต่ก็มีการตรวจที่เข้มงวดขึ้น จากเดิมที่สุ่มตรวจบางตู้ แต่ขณะนี้เปิดตรวจทุกตู้ ซึ่งทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก

“นโยบายซีโร่โควิดเป็นนโยบายของจีน ซึ่งเราทำอะไรไม่ได้ แต่มีการเจรจากับจีนขอให้ล้งที่ผ่านกระบวนการอบรมหลักสูตรปลอดโควิด สามารถผ่านด่านจีนได้โดยไม่ต้องเปิดทุกตู้ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการเจรจา หากประสบความสำเร็จก็จะแก้ปัญหาได้มาก” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีสอบถุงมือยางเทียมว่า ขณะนี้ตั้งกรรมการสอบ 2 ส่วน 1. กรรมการสอบวินัย ว่ามีความผิดกี่คน ลงโทษขั้นไหน 2. ตรวจสอบทางละเมิดว่าใครเข้าข่ายต้องชดใช้ค่าเสียหายให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่เสียหายไป 2,000 ล้านบาท ซึ่งชุดวินัยสอบจบแล้ว ปรากฎว่ามี 3 คน ที่ต้องลงโทษทางวินัย ซึ่งไล่ออกไป 2 คนแล้ว เหลือ 1 คน ซึ่งต้องให้สำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการ

ส่วนความผิดทางละเมิดมีความผิดมากกว่า 3 คนที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงการคลังแล้ว เพื่อให้ชี้ว่าใครต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนเท่าไร ในส่วนที่เหลือของหน่วยงานอิสระอยู่ระหว่างการสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.พ. 65)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top