หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าผันผวน อิงลงคล้ายภูมิภาคจากการขายทำกำไรหลังยืนเหนือ 1,700 จุด

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวน อิงทางลงคล้ายตลาดภูมิภาคเอเชีย แต่จะลบน้อยกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากเงินทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง แต่อาจเจอการขายทำกำไรหลังยืนเหนือ 1,700 จุดได้ ให้แนวรับไว้ที่ 1,690-1,700 จุด และแนวต้านไว้ที่ 1,720 จุด

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวน อิงทางลง สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย แต่จะลบน้อยกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากยังได้รับปัจจัยหนุนจากเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือ 1,700 จุด ก็อาจจะมีการขายทำกำไรออกมาบ้าง

ทั้งนี้มองว่าหากไม่หลุดแนวรับ 1,690-1,700 จุด ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ ให้แนวต้านไว้ที่ 1,720 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (16 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,312.03 จุด ลดลง 622.24 จุด หรือ -1.78%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,380.26 จุด ลดลง 94.75 จุด หรือ -2.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,716.72 จุด ลดลง 407.38 จุด หรือ -2.88%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 337.71 จุด หรือ -1.24% , ตลาดหุ้นจีน ลดลง 16.41 จุด หรือ -0.47% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 159.11 จุด หรือ -0.64%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ก.พ.) ที่ระดับ 1,711.58 จุด เพิ่มขึ้น 10.13 จุด, +0.60%

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 6,198.39 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ก.พ.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 ก.พ.) ลดลง 1.9 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 91.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ก.พ.) อยู่ที่ 6.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 32.15 แข็งค่าต่อเนื่องตามทิศทางตลาด ตลาดจับตาสถานการณ์ยูเครน

– ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันที่ 17 ก.พ. เคลื่อนไหวแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือน อยู่ที่ 32.20 บาทต่อดอลลาร์ หรือแข็งค่าแล้ว 3.8% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 64 หรือตั้งแต่ต้นปี 65 เป็นต้นมา และกลายเป็นสกุลเงินที่แข็งค่าที่สุดในเอเชีย หลังจากนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยและพันธบัตรไทยในช่วง 1 เดือนครึ่งตั้งแต่ต้นปีเกือบ 2 แสนล้านบาท แบ่งเป็นซื้อหุ้นไทย 64,580 ล้านบาท และพันธบัตรไทย 1.28 แสนล้านบาท ทำให้ยอดถือครองพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติอยู่ที่ 1.15 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.67% ของยอดคงค้างพันธบัตรไทยโดยรวม นับเป็นสถิติสัดส่วนการถือครองพันธบัตรไทยโดยต่างชาติที่สูงที่สุดในรอบ 3 ปี

– สธ.ปลดโควิด-19 จาก “โรคฉุกเฉิน” ปรับตามสถานการณ์หลังอยู่ร่วมมา 2 ปี ยันไม่ยกเลิก UCEP อาการเข้าเกณฑ์ยังรักษาได้ทุกที่ ผุด “UCEP พลัส” รับคนติดเชื้อและมีโรคร่วมเดิมเข้ารักษา ได้ทุกที่ แม้อาการไม่รุนแรง ระบุอัตราป่วยตายไทยลดลง อยู่ที่ 0.2% ต่ำกว่าของโลกอยู่ที่ 1.4% ป่วยรายใหม่ 17,349 ราย ผู้เดินทางเข้าไทยสะสม 1-16 ก.พ.กว่า 1 แสนรายติดโควิด 2,890 คน

– ราชกิจจาฯ ประกาศลดภาษีน้ำมันดีเซล 3 บาท/ลิตร มีผลถึง 20 พ.ค.65 ราคาดีเซลลด 2 บาท/ลิตร ที่เหลือเข้ากองทุนฯ ปตท.โชว์ปี 64 กำไรสุทธิ 1.08 แสนล. โต 187% กำไรสต๊อกน้ำมัน 4.6 หมื่นล. “ผู้ว่าฯระยอง” อัด SPRC ปล่อยน้ำมันรั่วซ้ำ คราบน้ำมันสีดำโผล่หาดแม่พิมพ์

– สภาหอการค้าไทย เปิดเผยถึงความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนว่า ภาคเอกชนมีความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ และกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า แม้ว่ารัฐบาลลดภาษีดีเซล 3 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ก็อาจทำให้รัฐบาลไม่สามารถแบกภาระต่อไปได้อีก อย่างไรก็ตาม ยังคิดในแง่ดีว่า ทั้งรัสเซียและยูเครนน่าจะหาวิธีการลดความตึงเครียดนี้ได้โดยการเจรจาระหว่างกัน ขณะนี้ก็มีการเล่นสงครามด้านจิตวิทยาเพื่อสร้างอำนาจการต่อรอง

– “สรรพสามิต” เตรียม 3 พันล้านบาท อัดฉีดค่ายรถดัมพ์ราคาขายปลีกอีวีลงคันละ 70,000-150,000 บาท คาด มี.ค.65 เริ่มทำสัญญา พร้อมจ่ายผู้ประกอบการเป็นรายไตรมาส

– เปิดฉากวันแรก “ผู้นำฝ่ายค้าน” ชำแหละรัฐบาล-พล.อ.ประยุทธ์ ต้นตอทำ “พังทั้งแผ่นดิน” เสนอลาออกจากตำแหน่ง ด้านนายกฯ สวนกลับ ทุกปัญหาคืบหน้า-ไม่ใช่รัฐบาล คสช.แปลงร่าง เปรียบเป็นพระรามแผลงศร เตือนฝ่ายค้าน ระวังจุดจบทศกัณฐ์ “มิ่งขวัญ” ประกาศลาออก กลางสภา ขณะที่ “อนุทิน” เมินตอบโต้ “ทักษิณ” ปมค่าหัวส.ส. ลั่นมีบุญคุณ

หุ้นเด่นวันนี้

– BDMS (กรุงศรี) ราคาเป้าหมาย 31 บาท คาดได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยงของภาครัฐผ่านมาตรการ Test & Go รวมถึงความการฟื้นความสัมพันธ์ ไทย-ซาอุฯ ช่วยเพิ่มกลุ่มลูกค้าตะวันออกกลาง ขณะที่ราคายัง laggard หากเทียบกับ BH ซึ่ง YTD+11% ขณะที่ BDMS +1.3%บท

– AMATA (เคทีบี เอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 24.00 บาท ประเมินรายได้ปี 65 สดใส ยอดขายที่ดินทั้งไทยและเวียดนามจะเพิ่มขึ้นรับการเปิดประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามจะเป็นตัวช่วยสำคัญ หลังเคลียร์ประเด็นกฏหมาย, EV มา กลุ่มนิคมยิ้มรับลูกค้าใหม่ โดยเป็น Target ในกลุ่ม New S Curve ที่ผู้ประกอบการนิคมวางแผนรอรับมาหลายปี หนุน Outlook สดใส KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 ที่ 1.64 พัน ลบ. และ 1.67 พัน ลบ. +42%YoY, +2%YoY ตามลำดับ

– PTT (เอเชีย เวลท์) ราคาเป้าหมาย 48 บาท รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/64 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY ธุรกิจการกลั่น โรงแยกก๊าซฯ และ PTTEP เติบโตหนุนผลประกอบการ ภาพรวมปี 64 ยังเติบโต 187%YoY ฟื้นตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ หลังเศรษฐกิจฟื้น เปิดประเทศ ผ่อนคลายมาตรการ ประกาศจ่ายปันผลครึ่งปีหลังของปี 64 ที่ 0.8 บาท ขึ้น XD วันที่ 3 มี.ค. และจ่ายวันที่ 29 เม.ย. แนวโน้มกาไรปกติ ไตรมาส 1/65 เติบโตต่อเนื่อง ยังแนะนา ซื้อ ราคาเป้าหมาย 48 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.พ. 65)

Tags: , , ,
Back to Top