นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ป คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินเดือนมี.ค.นี้ เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ
การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 7.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.2% จากระดับ 7.0% ในเดือนธ.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.0% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9% จากระดับ 5.5% ในเดือนธ.ค.
นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ประบุว่า “ตัวเลข CPI พื้นฐานเดือนม.ค.สะท้อนให้เห็นว่า เงินเฟ้อของสหรัฐยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ 6% และมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นวงกว้าง ไม่ใช่ชะลอตัวลงตามที่เฟดเคยตั้งสมมติฐานไว้ เราจึงมองว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมี.ค. ก่อนที่จะปรับขึ้นอีก 0.25% จำนวน 4 ครั้งในเดือนพ.ค. มิ.ย. ก.ย. และธ.ค.”
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ยังมีแนวโน้มว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2566 หลังจากที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 1.50% ในปีนี้
“เราคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานจะยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนก.พ.” นักวิเคราะห์ของซิตี้กล่าวว่า พร้อมกับคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรวัดเงินเฟ้อนั้น จะขยายตัวสูงกว่า 3.5% ในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งอยู่เหนือตัวเลขคาดการณ์ของเฟดที่ระดับ 2.7%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.พ. 65)
Tags: CPI, ซิตี้กรุ๊ป, ดอกเบี้ย, สหรัฐ, อัตราเงินเฟ้อ, เฟด