พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ข้อมูบว่ามีคนบางกลุ่มอาศัยช่องว่างในการแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่มิชอบ โดยการทำพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงให้ตนเองติดโรคโควิด-19 เพื่อหวังจะเอาเงินประกัน ดังเช่นขอซื้อไม้ swab ต่อจากผู้ที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 นำมาทำให้ตนเองมีความเสี่ยงในการติดเชื้อเพื่อจะได้รับเงินประกัน
ทั้งนี้ การกระทำในลักษณะดังกล่าว นอกจากจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพและอาจอันตรายถึงชีวิตแล้ว หากมีการติดโควิด-19 โดยเจตนาจริงเพื่อหวังจะได้เงินประกัน อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานฉ้อฉลประกันภัย ตามมาตรา 114/4 แห่งพ.ร.บ.ประกันชีวิต พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 และมาตรา 108/4 แห่งพ.ร.บ.ประกันวินาศภัย พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 4 ) พ.ศ.2562 ซึ่งบัญญัติว่าผู้ใดเรียกร้องผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยโดยทุจริตหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จในการเรียกร้อง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และหากมีการแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคว่าติดเชื้อมาจากสาเหตุอื่นที่ไม่เป็นความจริงก็จะเป็นความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งทางบริษัทประกันมีสิทธิที่จะปฏิเสธการจ่ายเงินประกันได้ และอาจถูกทางบริษัทประกันฟ้องร้องกลับก็เป็นได้
รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวนอกจากจะผิดกฎหมายและเกิดผลเสียกับตัวผู้กระทำแล้ว ยังเป็นการเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสต่อสังคมโดยรวมด้วย ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการปฏิบัติตามนโยบายสาธารณสุข และคำสั่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันในภาพรวม รวมถึงขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการสอดส่องผู้ที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงและสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.พ. 65)
Tags: COVID-19, กฤษณะ พัฒนเจริญ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, โควิด-19