นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้ปี 65 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน เป็นไปตามปริมาณการขายน้ำมันที่คาดว่าจะเติบโตได้ราว 8-10% หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศคลี่คลายลงไปมาก และอีกส่วนหนึ่งมาจากการขยายสาขาสถานีบริการน้ำมัน PT เพิ่มอีก 80-120 สาขา จาก 9 เดือนแรกของปี 64 มีจำนวน 2,094 สาขา เน้นสถานนีบริการขนาดเล็กราว 4-5 หัวจ่ายน้ำมัน
ขณะที่บริษัทมั่นใจว่าจะยังรักษาส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ในตลาดขายปลีกน้ำมันเป็นอันดับ 2 ในปีนี้ และยังคาดว่าแนวโน้มค่าการตลาดในปีนี้จะยังคงรักษาระดับเฉลี่ยได้ที่ 1.7-1.8 บาท/ลิตร โดยในไตรมาส 1/65 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาส 4/64 หลังจากบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น
ด้านธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-oil) คาดว่าปีนี้จะมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 20% จากเดิมกว่า 10% ของรายได้รวม หลังจากเดินหน้าขยายร้านกาแฟพันธุ์ไทย เพิ่มเป็น 600 สาขา จาก 300 สาขา, ร้านแมกซ์มาร์ท (Maxmart) เพิ่มเป็น 30 สาขา จากเดิม 26 สาขา รวมถึงยังวางเป้าหมายผลักดันมาร์เก็ตแชร์ก๊าซหุงต้ม (LPG) ขึ้นเป็นอันดับ 3 จากปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 6
ขณะเดียวกันก็วางเป้ายอดขายน้ำมันพืช แบรนด์ “มีสุข” ในปีนี้ไว้ประมาณ 1 ล้านขวด/เดือน ด้วยการจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้จับมือกรมการค้าภายใน ทำโครงการ “ครัวไทยมีสุขกับพีที” ลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ให้กับสมาชิก PT Max Card รับสิทธิ์แลกซื้อราคาน้ำมันปาล์ม ภายใต้แบรนด์ “มีสุข” ขนาด 1 ลิตร ในราคาสุดพิเศษ เมื่อเติมน้ำมันทุกชนิดครบ 500 บาทขึ้นไป ณ สถานีบริการน้ำมัน PT ที่เข้าร่วมรายการทั่วประเทศ ตลอดเดือนกุมภาพันธ์
ในปีนี้ PTG วางงบลงทุนราว 4,000-4,500 ล้านบาท เพื่อใช้ขยายสถานีบริการน้ำมัน PT จำนวน 1,500-2,000 ล้านบาท, ใช้ขยายธุรกิจ Non oil 1,500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้ลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยบริษัทมีแผนขยายไปสู่ธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะ กำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของนโยบายภาครัฐเกี่ยวกับการเปิดรับซื้อไฟฟ้า
นายรังสรรค์ กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการนำ บริษัท พีพีพี กรีน คอมเพล็กซ์ จำกัด ที่ PTG ร่วมถือหุ้น 40% ซึ่งดำเนินธุรกิจปาล์มคอมเพล็กซ์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าจะสามารถยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/65 ถึงต้นไตรมาส 3/65 เพื่อระดมทุนต่อยอดธุรกิจปลายน้ำ เช่น ผลิตภัณฑ์แปรรูปเพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมความงาม ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ประเภท เซรั่ม และสบู่เหลว ออกมาแล้ว อยู่ในช่วงของการทดลองตลาด
ปัจจุบัน ธุรกิจปาล์มคอมเพล็กซ์ ทำรายได้ราวปีละ 4,000-5,000 ล้านบาท อัตราการใช้กำลังการผลิตไบโอดีเซลราว 60-70% และน้ำมันพืช 100%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.พ. 65)
Tags: PTG, พีทีจี เอ็นเนอยี, รังสรรค์ พวงปราง, หุ้นไทย