ข้อมูลการขายเบื้องต้นเปิดเผยว่า ยอดขายของผู้ค้าปลีกเชื้อเพลิงอินเดียชะลอตัวลงในเดือนม.ค.จากเดือนก่อนหน้า หลังจากทางการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนในหลายรัฐ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
รายงานระบุว่า ผู้ค้าปลีกขายผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบประมาณ 5.6 ล้านตันในเดือนม.ค. ลดลง 12.75% จากเดือนธ.ค. และ 6.85% เมื่อเทียบรายปี
ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบคิดเป็น 2 ใน 5 ของปริมาณความต้องการใช้น้ำมันกลั่นในอินเดีย และเชื่อมโยงโดยตรงกับกิจกรรมของภาคอุตสาหกรรม
นับตั้งแต่ต้นปีนี้ หลายรัฐในประเทศได้บังคับข้อจำกัดในระดับต่าง ๆ รวมถึงเคอร์ฟิวในช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ส่งผลให้การขยายตัวของกิจกรรมโรงงานอินเดียเดือนม.ค.ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ที่รวบรวมโดยไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน ตั้งแต่วันที่ 12-25 ม.ค. ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 54.0 ในเดือนม.ค. เนื่องจากมาตรการควบคุมโควิดส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อใหม่และผลผลิต ขณะที่แรงกดดันด้านราคาที่สูงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของธุรกิจในปีนี้
ทั้งนี้ ข้อมูลยอดขายน้ำมันเบนซินเดือนม.ค.อยู่ที่ 2.2 ล้านตัน ลดลง 12.3% จากเดือนธ.ค. และ 5.4% จากปีก่อนหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 65)
Tags: PMI, ค้าปลีก, น้ำมันดิบ, ผลกระทบโควิด-19, ยอดขาย, อินเดีย, เชื้อเพลิง, เศรษฐกิจอินเดีย