BBGI เตรียมพร้อมเปิดขายหุ้น IPO 433.20 ล้านหุ้นหลัง ก.ล.ต.นับ 1 ไฟลิ่ง

นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. บีบีจีไอ (BBGI) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพร้อมระดมทุนด้วยการเนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) หลังจากล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นับ 1 แบบแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) แล้ว

นางสาวบุษราภรณ์ จันทร์ชูเชิด รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.กรุงไทย ซีมิโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า BBGI จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 433.20 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 2.50 บาท คิดเป็นไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดนั้น

การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BBGI แบ่งเป็น

– จัดสรรหุ้นสามัญที่ออกใหม่จำนวนไม่เกิน 108.30 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเฉพาะกลุ่ม ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) และ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Rights)

– จัดสรรหุ้นสามัญที่ออกใหม่จำนวนไม่เกิน 324.90 ล้านหุ้น และหุ้นในส่วนที่เหลือจากการเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นของ BCP และ KSL เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้น เพื่อเสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไป

นอกจากนี้ ยังจัดสรรหุ้นสามัญส่วนเกิน (Over-Allotment) จำนวนไม่เกิน 43.32 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่เสนอขายในครั้งนี้ เพื่อรองรับการใช้สิทธิจัดสรรหุ้นเกินกว่าจำนวนที่เสนอขาย (หากมีการใช้สิทธิ) อีกด้วย

ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ส่วนหนึ่งนำไปลงทุนลงทุนในโครงการต่างๆ ของ BBGI และบริษัทย่อย เพื่อขยายกิจการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ส่วนที่เหลือจะใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

BBGI เป็นผู้นำธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ ในประเทศไทย พร้อมต่อยอดองค์ความรู้ความชำนาญสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าผลิตผลทางการเกษตรแบบก้าวกระโดด ลดการเบียดเบียนทรัพยากรธรรมชาติ และ สร้างความยั่งยืนให้แก่โลก

ปัจจุบัน BBGI ถือหุ้นในบริษัทย่อย 4 บริษัท ได้แก่ บมจ.เคเอสแอล กรีน อินโนเวชั่น (KGI) ผู้ผลิตและจำหน่ายเอทานอลที่ใช้กากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบในการผลิต ในสัดส่วน 100% ของทุนชำระแล้ว บริษัท บางจากไบโอเอทานอล (ฉะเชิงเทรา) จำกัด (BBE) ผู้ผลิตและจำหน่ายเอทานอลโดยใช้มันสำปะหลังสดและมันสำปะหลังเส้นเป็นวัตถุดิบในการผลิต ในสัดส่วน 85% ของทุนชำระแล้ว บริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (BBF) ผู้ผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซล โดยใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต ในสัดส่วน 70% ของทุนชำระแล้ว บริษัท บีบีจีไอ ยูทิลิตี้ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (BUP) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านสาธารณูปโภคและพลังงาน ในสัดส่วน 100% ของทุนชำระแล้ว

นอกจากนี้ BBGI ยังถือหุ้นในกิจการร่วมค้าที่ประกอบธุรกิจอื่น ได้แก่ บริษัท วิน อินกรีเดียนส์ จำกัด (WIN) ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง ในสัดส่วน 51% ของทุนชำระแล้ว อีกทั้ง BBGI ยังมีการลงทุนในหุ้นบุริมสิทธิ์ที่แปลงสภาพได้ของ Manus Bio Inc. (Manus) ซึ่งจดทะเบียนในประเทศสหรัฐอเมริกา ในสัดส่วน 5.6% ของทุนชำระแล้ว ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงและมีความเชี่ยวชาญหลากหลายในผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง และยังลงทุนใน บมจ. อุบล ไบโอ เอทานอล (UBE) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล และแป้งมันสำปะหลัง ในสัดส่วน 12.4% ของทุนชำระแล้ว อีกด้วย

บริษัทมีรายได้เติบโตต่อเนื่องในปี 61-63 จำนวน 9,802 ล้านบาท 10,060 ล้านบาท และ 12,620 ล้านบาทตามลำดับ จากธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งมีปริมาณการจำหน่ายมากขึ้นตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของโรงงานผลิตเอทานอลและไบโอดีเซล รวมไปถึงการจำหน่ายเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม และเกรดเภสัชกรรม เพื่อนำไปผลิตเจลแอลกอฮอล์ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องในปี 61-63 จำนวน 200 ล้านบาท 450 ล้านบาท และ 1,112 ล้านบาทตามลำดับ

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 64 มีรายได้รวม 10,122 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.63% และมีกำไรสุทธิ 1,058 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.27% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top