แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เป็นประธาน มีมติเห็นชอบการปรับลดสูตรผสมน้ำมันไบโอดีเซล (B100) จากปัจจุบันน้ำมันดีเซล B7 (ผสม B100 ในเนื้อน้ำมันดีเซล 7%) เหลือ B5 โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มแห่งชาติ (กนป.) ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ก่อน จากนั้นคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ดีเซล B5 ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2565 ซึ่งเป็นเพียงมาตรการระยะสั้นเท่านั้น
ทั้งนี้การปรับลดสูตรผสมดังกล่าว เป็นการปรับลดส่วนผสม B100 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากสถานการณ์ราคา B100 อยู่ในระดับ 57 บาทต่อลิตร นับว่าเป็นราคาที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดังนั้นการปรับลดสัดส่วนผสมในครั้งนี้ จะสามารถประหยัดต้นทุนลง 50-60 สตางค์ต่อลิตร อย่างไรก็ตามราคาขายปลีกดีเซล B5 ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ช่วยลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ นอกจากนี้กระทรวงพลังงานยังคงนโยบายรักษาระดับราคาขายปลีกดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวว่า การลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลลงจะเป็นการดำเนินการระยะสั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเป็นการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันให้เป็นไปตามสัดส่วนการผสมของกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ดังนี้
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ไม่ต่ำกว่า 5% และไม่สูงกว่า 7% โดยปริมาตรน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่า 5% และไม่สูงกว่า 10% โดยปริมาตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 ไม่ต่ำกว่า 5% และไม่สูงกว่า 20% โดยปริมาตร โดยมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ออกประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมัน ดีเซล พ.ศ. …. ให้สอดคล้องกับมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
พร้อมมอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) นำเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้น ต่อ กนป.เพื่อทราบ ต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.มีมติเห็นชอบแนวทางการการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล (B100) ในภาวะวิกฤติด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการพิจารณาสัดส่วนผสมการผสม ไบโอดีเซล (B100) ในภาวะวิกฤติด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบและไบโอดีเซล (B100) ที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นด้วย ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน
ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคาน้ำมัน และเพื่อให้การบริหารจัดการราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงวิกฤติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้กำหนดแนวทางการสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในภาวะปกติ เป็น 2 ระยะ ดังนี้ 1.ระยะสั้น (65-66) กำหนดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 2 เกรด คือ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B7 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 สำหรับใช้กับรถบรรทุกขนาดใหญ่ 2. ระยะยาว (67 เป็นต้นไป) กำหนดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B7 เกรดเดียว
สำหรับแนวทางการสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในภาวะวิกฤติ ในกรณีราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 30 บาทต่อลิตร (โดยไม่มีการชดเชยราคาจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง) กบง.ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือแนวทางที่เหมาะสม คำนึงถึงปัจจัยต่างๆ พิจารณาผลกระทบให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 65)
Tags: กบง., กระทรวงพลังงาน, ปาล์มน้ำมัน, ราคาน้ำมัน, ไบโอดีเซล