นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น 1.33 เหรียญสหรัฐ และประเทศไทยเตรียมเริ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายโครงการในวันนี้ พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,645 จุด และ 1,635 จุด ด้านแนวต้าน 1,655 จุด และ 1,660 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐ หลังราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจัยหนุนของความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย โดยล่าสุดรัสเซียมีการเพิ่มกำลังทหารบริเวณพรมแดนติดกับยูเครน
ทั้งนี้ ประเทศไทยจะมีการเคลื่อนไหวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น โดยนโยบายกระตุ้นต่างๆ จะเริ่มขึ้นวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น โครงการคนละครึ่งเฟส 4 และโครงการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศในรูปแบบ Test and Go ที่จะกลับมาเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง เป็นต้น
“ดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังราคาน้ำมันดีตัวขึ้น 1.33 เหรียญสหรัฐ และประเทศไทยเองเตรียมเริ่มโครงการต่างๆที่จะเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจวันนี้เป็นวันแรกด้วย ด้านตลาดอื่นๆ ในภูมิภาควันนี้มีผลกับประเทศไทยน้อยเพราะหลายๆ ตลาดปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีน”
นายอภิชาติ กล่าว
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,645 จุด และ 1,635 จุด ด้านแนวต้านให้ไว้ที่ 1,655 จุด และ 1,660 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (31 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,131.86 จุด เพิ่มขึ้น 406.39 จุด หรือ +1.17%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,515.55 จุด เพิ่มขึ้น 83.70 จุด หรือ +1.89% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,239.88 จุด เพิ่มขึ้น 469.31 จุด หรือ +3.41%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 165.16 จุด หรือ +0.61%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (31 ม.ค.) ที่ระดับ 1,648.81 จุด เพิ่มขึ้น 9.30 จุด, +0.57%
– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 833.18 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ม.ค.65
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (31 ม.ค.) เพิ่มขึ้น 1.33 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 88.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (31 ม.ค.) อยู่ที่ 7.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 33.21 แข็งค่าตามทิศทางตลาดหลังนลท.เทขายดอลลาร์ คาดกรอบ 33.10-33.30
– สรรพากรออกคู่มือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา “คริปโทฯ-โทเคน” ยึดหลัก “ทำให้ชัด ผ่อนปรน มองอนาคต” เผย 5 กลุ่มเข้าข่ายยื่นแบบประจำปี ครอบคลุมสาย “เทรด-ขุด-ค่าจ้างเงินเดือน-รางวัล-ผลตอบแทน” ด้าน “เอกนิติ” รับเตรียมแก้กฎหมายวางบรรทัดฐานการจัดเก็บให้ชัดเจน เท่าทันโลกยุคใหม่
– คิกออฟรีเทิร์นรับนักท่องเที่ยว Test & Go วันนี้ เร่งฟื้นท่องเที่ยวไทย “ททท.” ซักซ้อมผู้ประกอบการโรงแรม SHA++ สาธิตการใช้ระบบใหม่ Thailand Pass Hotel & Swap System อุดช่องโหว่ดึงนักท่องเที่ยวตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 วันแรก-วันที่ 5 ศบค.เผย อ้าแขนรับทุกประเทศ ยันรัดกุมกว่าเดิม ขู่ใช้กฎหมายเล่นงานนักท่องเที่ยวฝ่าฝืนหนีตรวจโควิด ย้ำผู้ประกอบการโรงแรมดูแลเข้ม
– กองทุนน้ำมันฯ ติดลบหมื่นล้าน ด้าน 3 แบงก์ยื่นให้กู้เสริมสภาพคล่อง เล็งต่อเวลารับข้อเสนอ เผยมีกระแสเงินสดตรึง “ดีเซลแอลพีจี” ได้ 3 เดือน “พลังงาน” เตรียมปรับสูตร ดีเซลเหลือ “บี5” ชนิดเดียว หวังลดต้นทุนน้ำมันปาล์มแพง ยืดเวลาตรึงดีเซล 30 บาท จับตาประชุม “โอเปกพลัส” พรุ่งนี้ ประเด็นเพิ่มกำลังการผลิต
– คลัง ย้ำคนละครึ่งเฟส 4 เริ่มใช้วันนี้ (1 ก.พ.) แต่ต้องยืนยันตัวตนก่อน ส่วนคนที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการ จะเปิดให้สมัคร 10 ก.พ.นี้ เตือนประชาชน เมื่อกดยืนยันสิทธิแล้ว ต้องใช้สิทธิครั้งแรกภายใน 28 ก.พ.นี้ ถ้าเลยกำหนดถูกตัดสิทธิทันที มั่นใจ “เป๋าตัง” ไม่ล่ม คาดสร้างเงินหมุนเวียนได้ 7-8 หมื่นล้านบาท
– ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยเดือน ธ.ค. และไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมาว่า ปรับดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อตัวเลขการประมาณการเศรษฐกิจโดยรวมของปีที่ผ่านมา โดยมีผลมาจากภาคการบริโภค ลงทุน การผลิต ส่งออกและท่องเที่ยว ที่ปรับตัวดีขึ้น จากการผ่อนคลายการควบคุมโควิด-19 และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เร่งขึ้นหลังการเปิดรับนักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 1 พ.ย.
– บิ๊กเนมอสังหาริมทรัพย์เหยียบคันเร่งปีเสือลุยเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวมทะลุกว่า 3.5 แสนล้านบาทหลังอั้นมาร่วม 2 ปี ท่ามกลางปัจจัยลบที่ยังคงอยู่ทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่ยังต้องเฝ้าระวังปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัย ปลอดภัยสูงสุดอย่างเคร่งครัด ภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อ “ชะลอตัว” ภาวะเงินเฟ้อ สินค้าและบริการราคาพุ่ง ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
หุ้นเด่นวันนี้
– XO (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 22 บาท คาดกำไร Q4/64 +6% Q-Q, +22% Y-Y จากปัญหา Supply Chain ที่คลี่คลาย แต่ยังมีปัญหาสายเรืออยู่บ้าง โดยปี 64 คาดกำไรจบที่ +43% Y-Y บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 โต 10%-15% Y-Y ซึ่งคาดหวังเห็นรายได้เร่งขึ้นใน Q2/65 สำหรับด้านต้นทุนยังไม่น่ากังวล มีเพียงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากแผนการสนับสนุนค่า Listing Fee ให้กับ Distributor มากขึ้น รวมถึงค่าเสื่อมที่จะรับรู้เต็มปี เรายังคาดกำไรปี 65 +3% Y-Y แต่มี Upside
– MAKRO (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 42.50 บาท เฮงรับตรุษจีน ยอดขายฟื้น พร้อมปรับ Model Lotus ใหม่ ยอดขายทั้งในและต่างประเทศฟื้นตัว ใช้สาขาของ Lotus ที่มีอยู่ทั่วประเทศเป็นแขนขาในการกระจายอาหารสดของกลุ่ม CP ภายใต้ชื่อ “Lotus’s go fresh” คาดช่วยเพิ่มมาร์จิ้นโดยเฉลี่ย ฐานรายได้, กำไร เพิ่ม ต้นทุนเฉลี่ย ลดลงอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่ปี 65, H2/65 เตรียมลุยขยายสาขาใหม่ Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 64-65 ที่ 1.22 หมื่น ลบ. และ 1.6 หมื่น ลบ. +82%YoY, +32%YoY ตามลำดับ
ARROW (โกลเบล็ก) “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 9.80 บาท คาดปี 65 กลับมาฟื้นตัวต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 64 หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายส่งผลโครงการต่างๆกลับมาดำเนินการได้ ประกอบกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ภาครัฐบาลคาดว่าจะออกมามากกว่า 3 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 64 มียอด Backlog กว่า 1,000 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้ต่อเนื่องในปี 65 ส่วนราคาวัตถุดิบเหล็กปรับตัวดีขึ้น และบริษัทปรับขึ้นราคาขาย 10-15% สะท้อนต้นทุน ประมาณการรายได้ปี 64-65 ที่ 1,163.7 ล้านบาท -10.1%YoY และ 1,210.6 ล้านบาท +4.0%YoY คาดกำไรสุทธิ 133.5 ล้านบาท -21.0%YoY และ 156.1 ล้านบาท +17.0%YoY ตามลาดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.พ. 65)
Tags: ตลาดหุ้น, หุ้นไทย, อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล