สหรัฐแสดงความวิตกกังวลว่า การที่เกาหลีเหนือยกระดับการทดสอบขีปนาวุธในช่วงที่ผ่านมานั้นอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า เกาหลีเหนือจะกลับมาทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีปอีกครั้ง พร้อมเรียกร้องให้เกาหลีเหนือกลับสู่กรอบการเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไขเบื้องต้นใด ๆ
เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) เกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบขีปนาวุธครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2560 โดยได้ยิงขีปนาวุธฮวาซอง 12 (Hwasong 12) ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยกลางและพิสัยไกลแบบภาคพื้นดินถึงภาคพื้นดิน
เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลสหรัฐได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “เรารู้สึกวิตกกังวล ไม่ใช่เพียงแค่การกระทำของเกาหลีเหนือเมื่อวานนี้ แต่เกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบขีปนาวุธบ่อยครั้งในเดือนนี้” นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังได้ทำการทดสอบขีปนาวุธและระบบต่าง ๆ ถี่ขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมาจนถึงสิ้นปี 2564
“แน่นอนว่าเราไม่ต้องการเห็นการทดสอบเพิ่มขึ้นอีก และเราเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการทดสอบเพิ่มเติม” เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐกล่าว
สำนักข่าว KCNA ของรัฐบาลเกาหลีเหนืออ้างว่า การทดสอบยิงขีปนาวุธดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินขีปนาวุธที่ถูกผลิตและนำไปใช้ และเพื่อตรวจสอบความแม่นยำโดยรวมของระบบอาวุธ
“การทดสอบยิงขีปนาวุธนี้ทำโดยระบบยิงขีปนาวุธมุมสูงสุดจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศไปยังน่านน้ำทะเลตะวันออกของเกาหลีโดยคำนึงถึงความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้าน”
สำนักข่าว KCNA ระบุ
ด้านนายมูน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุว่า การทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือได้ย้ำเตือนถึงความตึงเครียดเมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธหลายครั้ง อีกทั้งยังได้มีการยิงขีปนาวุธที่ใหญ่ที่สุดด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ม.ค. 65)
Tags: ขีปนาวุธ, สหรัฐ, อาวุธนิวเคลียร์, เกาหลีเหนือ