บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี (Evolt Technology) ร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) กับ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด ผู้ผลิตและนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ MG เพื่อขยายโซลูชันรองรับการเพิ่มสถานีอัดประจุไฟฟ้านำร่องในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทาง Evolt Technology จะเป็นผู้วางระบบและติดตั้งสถานีชาร์จ MG Super Charge ซึ่งเปิดให้บริการที่ปั๊มบางจากครบ 50 แห่งแล้วในปี 2564
ล่าสุด Evolt Technology เตรียมทีมงานพร้อมรองรับการขยายสถานีที่เติบโตอย่างรวดเร็วในทุกๆ ปี ทั้งทีมติดตั้งและทีมโอเปอเรชันที่คอยให้บริการตลอด 24 ชม.
“เรามีพันธมิตรที่แข็งแกร่งจากหลากหลายอุตสาหกรรม และการเข้าร่วมเป็น Strategic Partner กับ เอ็มจี ด้วยความมุ่งมั่นผลักดันสังคมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศอย่างต่อเนื่องมากว่า 3 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เอ็มจีไม่ได้เพียงแค่เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ใสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังเดินหน้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุมในทุกมิติควบคู่กันไป เป็นไปในทิศทางเดียวกับโรดแมปของประเทศที่ภาครัฐให้การสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ EV เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนหันมาเปลี่ยนแปลงการใช้ EV ตามแผนปฏิรูปพลังงานมากขึ้น” พูนพัฒน์ โลหารชุน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด (Evolt Technology) กล่าว
นายพูนพัฒน์ โลหารชุน กล่าวต่อไปว่า จุดแข็งที่สำคัญของ Evolt Technology เรามีความชำนาญด้านเทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม ผนวกกับทีมวิศวกรและทีมพัฒนาธุรกิจ วันนี้เราก้าวเป็นผู้นำบริการระบบประจุยานยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจรที่สุดในประเทศไทยแล้ว เราพร้อมก้าวสู่ผู้ให้บริการ E-Mobility โซลูชันขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์แห่งแรกของเมืองไทย
“ความร่วมมือครั้งนี้ เอ็มจี และ Evolt Technology ไม่ได้หวังเพียงแค่การเติบโตและความสำเร็จทางธุรกิจเท่านั้น แต่ต้องการสร้างโมเดลการรองรับความต้องการสถานีอัดประจุไฟฟ้าทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการปฏิรูปพลังงานด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และสนับสนุนให้ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตได้จริงในระยะเวลารวดเร็ว มีสถานีอัดประจุไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 12,000 หัวจ่ายภายในปี พ.ศ.2573 เพราะปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลให้คนส่วนใหญ่ตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้รถ EV หรือไม่นั้น การเข้าถึงหัวชาร์จเป็นหัวใจสำคัญ หากภาครัฐจับมือภาคเอกชนเข้ามาร่วมสนับสนุนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง เชื่อว่าจะทำให้ผู้ใช้รถปัจจุบันตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ EV ได้ง่ายขึ้น และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อ Ecosystem ของอุตสาหกรรมยานยต์ไฟฟ้า เพื่อมุ่งสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำได้เร็วขึ้น” พูนพัฒน์ โลหารชุน กล่าว
ทางด้าน มร.จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เอ็มจี มุ่งมั่นผลักดันยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องมากว่า 3 ปี ที่ผ่านมาเอ็มจีไม่ได้เพียงแค่เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังเดินหน้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุมในทุกมิติควบคู่กัน ทั้งนี้ เอ็มจีได้ลงทุนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว (DC Charger) ภายใต้ชื่อ “MG Super Charge” ซึ่งปัจจุบันสามารถเปิดให้บริการแล้วกว่า 120 แห่งทั่วประเทศ และมีเป้าหมายติดตั้งเพิ่มเติมอีกกว่า 500 แห่ง ด้วยการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง”
เอ็มจี จับมือ Evolt Technology พัฒนาสถานีชาร์จพร้อมให้บริการแล้วกว่า 120 สถานี และทยอยเพิ่มสถานีชาร์จแบบ Super Charge ในสถานีบริการบางจากในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ เพื่อรองรับผู้ใช้ EV ในเมืองใหญ่อย่างต่อเนื่อง
Evolt ชูจุดแข็ง E-mobility มีทีมวางระบบและติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าครบวงจรที่สุดในไทย
สำหรับจุดแข็งของ Evolt นั้น คือ การจับมือเอ็มจีเพื่อรองรับตลาดรถ EV ด้วยการเพิ่มสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว (DC Charger) ภายใต้ชื่อ “MG Super Charge” ซึ่งปัจจุบันสามารถเปิดให้บริการแล้วกว่า 120 แห่งทั่วประเทศ และมีเป้าหมายอย่างชัดเจนในการติดตั้งเพิ่มเติมอีกกว่า 500 แห่งอย่างต่อเนื่อง
บริษัทเชื่อว่า “EV Charging” จะเป็นกุญแจดอกสำคัญในการนำพาประเทศไปสู่การพลิกโฉมยานนยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย พร้อมก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Society) ลดการปล่อยมลพิษจากการใช้ยานยต์ไฟฟ้า และลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล ในอนาคตอันใกล้
บริษัทได้จัดกลุ่มผู้ใช้บริการชาร์จในชีวิตประจำวันของคนไทย ในการออกไปทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยบริการ At Travel, At Play, At Work
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ม.ค. 65)
Tags: Evolt Technology, MG, พูนพัฒน์ โลหารชุน, ยานยนต์ไฟฟ้า, รถยนต์ไฟฟ้า, สถานีชาร์จ, อีโวลท์ เทคโนโลยี, เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี