Cisco เผยการระบาดครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี 2563 ทำให้การทำงานระยะไกลถูกเร่งนำมาใช้ และระบบ Secure Access Service Edge (SASE) นำไปสู่การทำงานรูปแบบใหม่ที่สามารถทำงานได้ทุกที่ทั่วโลก ทำให้ SASE เข้าสู่แนวหน้าในการเข้าถึงแอปพลิเคชันจากระยะไกล
SASE เป็นเทคโนโลยีสามารถเข้ามายกระดับการดำเนินการ ด้วยการขยายช่องทางเพิ่มขึ้น ง่ายขึ้น และปลอดภัยสำหรับการเชื่อมต่อผู้ใช้งานกับเครื่องมือที่ต้องการ โดยนำเครือข่ายและฟังก์ชันความปลอดภัยมาใกล้กับ เครื่องมือ/ผู้ใช้งานให้มากขึ้นที่จุดปลายทาง แล้วเคลื่อนตัวไปยังคลาวด์
ทั้งนี้ SASE ทำให้การเข้าถึงข้อมูลเปลี่ยนจาก Data Center ด้วยระบบคลาวด์ เป็นแบบจำลองที่มีระบบคลาวด์เป็นศูนย์กลางมากขึ้น องค์กรจึงสามารถปรับเปลี่ยน เพื่อเปิดใช้งานการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยในการทำงานระยะไกล
Cisco ได้มอบการเชื่อมต่อที่มีความปลอดภัย สำหรับผู้ที่ทำงานระยะไกลและธุรกิจสาขาต่าง ๆ ภายในไม่กี่นาที ด้วยวิธีการที่หลากหลายจาก SASE ขยายขีดความสามารถและเติบโตในการสร้างจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว ช่วยปกป้องการลงทุน และปรับเปลี่ยนด้วยแนวทางแพลตฟอร์มแบบบูรณาการและการเปิด APIs
จุดเด่นของโมเดล Secure Access Service Edge (SASE)
• 73% ลดเวลาในการตอบสนองของแอปพลิเคชัน
• 40% ประสิทธิภาพที่รวดเร็วมากขึ้นบน Microsoft 365
• 65% ลดต้นทุนด้านการเชื่อมต่อ
• 59% เริ่มต้นใช้บริการใหม่ได้เร็วมากขึ้น
• 60% TCO ที่ต่ำกว่าสำหรับ Zero Trust
Cisco ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้นำด้วย Zero Trust ถึงสองครั้ง ใน The Forrester Wave: Zero Trust ด้วยวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ด้านการตลาด Forrester ให้คะแนนสูงสุดในเกณฑ์ของ ZTX แพลตฟอร์มระบบนิเวศแบบขยายผู้ให้บริการ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ม.ค. 65)
Tags: Cisco, Data Center, New Normal, SASE, Secure Access Service Edge, ระบบคลาวด์, แอปพลิเคชัน