นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) ว่า โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนก่อให้เกิดโรคร้ายแรงได้น้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา แต่ยังคงเป็น “ไวรัสอันตราย” โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
นายแพทย์ทีโดรสกล่าวว่า มีมากกว่า 90 ประเทศที่ยังฉีดวัคซีนให้ประชากรในประเทศได้ไม่ถึง 40% และคนในทวีปแอฟริกามากกว่า 85% ยังไม่ได้แม้แต่เข็มแรก
“เราต้องไม่ยอมยกธงขาวหรือปล่อยให้ไวรัสตัวนี้ลอยนวล โดยเฉพาะเมื่อยังมีคนทั่วโลกอีกมากที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน” นายแพทย์ทีโดรสกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์นำเสนอรายงานทางระบาดวิทยาของ WHO เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (11 ม.ค.) ซึ่งระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 55% หรือ 15 ล้านรายในช่วงสัปดาห์ที่ 2-9 ม.ค. นับเป็นสถิติการพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่สุดภายในสัปดาห์เดียวในขณะนี้
“ยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นนี้เกิดจากสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งเข้ามาแทนที่เดลตาอย่างรวดเร็วในเกือบทุกประเทศ” นายแพทย์ทีโดรสกล่าว
ทั้งนี้ นายแพทย์ทีโดรสเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกส่วนใหญ่ที่ต้องเข้าโรงพยาบาลนั้นเป็นผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน และหากโอมิครอนไม่ได้รับการควบคุม ก็มีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะเกิดโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่อาจระบาดง่ายและร้ายแรงยิ่งกว่าโอมิครอน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ม.ค. 65)
Tags: WHO, ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส, องค์การอนามัยโลก, โอมิครอน