ศูนย์วิจัยคลินิกศิริราช เปิดเผยผลการวิจัยเบื้องต้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันชนิด PVNT50 ต่อสายพันธุ์เดลตา และโอมิครอน ด้วยวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ครึ่งโดส และไฟเซอร์เต็มโดส ที่ 2 สัปดาห์หลังกระตุ้นเข็มที่ 3 ในผู้ที่เคยได้รับวัคซีนซิโนแวคหรือแอสตร้าเซนเนก้ามาแล้ว 2 เข็ม พบว่า
กรณีรับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ได้แก่
1. ซิโนแวค+ซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้า
- ให้ภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลตาได้ = 587 GMT
- ให้ภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนได้ระดับต่ำกว่าประมาณ 2-3 เท่า = 170 GMT
2. ซิโนแวค+ซิโนแวค+ไฟเซอร์ครึ่งโดส
- ให้ภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลตาได้ดี = 1,002 GMT
- ให้ภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอนได้ระดับต่ำกว่าประมาณ 1 เท่า = 507 GMT
3. ซิโนแวค+ซิโนแวค+ไฟเซอร์เต็มโดส
- ให้ภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลตาได้ดี = 1,143 GMT
- ให้ภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอนได้ระดับต่ำกว่าประมาณ 1 เท่า = 531 GMT
กรณีรับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม
1. แอสตร้าเซนเนก้า+แอสตร้าเซนเนก้า+แอสตร้าเซนเนก้า
- ให้ภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลตาได้ดี = 121 GMT
- ให้ภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอนได้ไม่ดีนัก = 22 GMT
2. แอสตร้าเซนเนก้า+แอสตร้าเซนเนก้า+ไฟเซอร์ครึ่งโดส
- ให้ภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลตาได้ดี = 674 GMT
- ให้ภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอนได้ระดับต่ำกว่าประมาณ 2-3 เท่า = 232 GMT
3. แอสตร้าเซนเนก้า+แอสตร้าเซนเนก้า+ไฟเซอร์เต็มโดส
- ให้ภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลตาได้ดี = 917 GMT
- ให้ภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์โอมิครอนได้ระดับต่ำกว่าประมาณ 1 เท่า = 521 GMT
(หน่วยวัดเป็นค่า GMT = Geometric Mean Titer)
ดังนั้น คำแนะนำสำหรับผู้ที่ฉีดซิโนแวคมาแล้ว 2 เข็ม และแอสตร้าเซนเนก้ามาแล้ว 2 เข็ม คือ ควรฉีดเข็มกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยวัคซีนไฟเซอร์ จะได้ระดับภูมิคุ้มกันที่สูงสุดทั้งต่อเดลตา และโอมิครอน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ม.ค. 65)
Tags: AstraZeneca, Pfizer, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, วัคซีนบูสเตอร์, วัคซีนเข็มกระตุ้น, ศิริราช, ศูนย์วิจัยคลินิกศิริราช, แอสตร้าเซนเนก้า, ไฟเซอร์