ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเผยผลการศึกษาเมื่อวานนี้ (4 ม.ค.) ซึ่งระบุว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ระหว่างตั้งครรภ์ไม่มีความเชื่อมโยงกับการคลอดก่อนกำหนด หรือทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์
คณะนักวิจัยระบุในรายงานการป่วยและการเสียชีวิตของประชากรประจำสัปดาห์ของ CDC เมื่อวานนี้ว่า อัตราการคลอดก่อนกำหนดอยู่ที่ 4.9% ในผู้หญิงจำนวนมากกว่า 10,000 คนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดส เทียบกับ 7.0% สำหรับผู้หญิงที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนประมาณ 36,000 คน ซึ่งความแตกต่างนี้ไม่ถือว่ามีนัยสำคัญทางสถิติ
นอกจากนี้ นักวิจัยยังพบว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงในการคลอดทารกที่มีน้ำหนักน้อยกว่าปกติในจำนวนสัปดาห์ของการตั้งครรภ์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลการศึกษาครั้งนี้สอดคล้องกับคำแนะนำของ CDC ที่ว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ระหว่างตั้งครรภ์นั้นมีความปลอดภัย
“ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ระหว่างตั้งครรภ์นั้นยังคงมีหลักฐานยืนยันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการตรวจพบแอนติบอดีในเลือดจากสายสะดือ”
คณะนักวิจัยระบุ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า สตรีมีครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเข้ารับการรักษาในห้องดูแลผู้ป่วยหนัก (ICU) การต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และการเสียชีวิต
อนึ่ง เมื่อเดือนเม.ย. 2564 หนังสือพิมพ์เอบีซีของสเปนรายงานว่า พบทารกแรกเกิดมีแอนติบอดีต่อต้านโควิด-19 หลังจากที่มารดาของเด็กได้รับวัคซีนในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ โดยปริมาณแอนติบอดีของเด็กคนดังกล่าวเทียบเท่ากับผู้ที่ได้รับวัคซีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ม.ค. 65)
Tags: CDC, COVID-19, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, สตรีมีครรภ์, สหรัฐ, โควิด-19