นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบจำกัด แม้ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังโอเปกพลัสคงอัตราการเพิ่มกำลังการผลิตเท่าเดิม 400,000 บาร์เรล/วันในเดือน ก.พ.แต่นักลงทุนน่าจะระวังการลงทุนมากขึ้น จากการเร่งตัวของเงินเฟ้อสหรัฐ และการแพร่ระบาดของโควิด โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนทั่วโลก ให้แนวรับ 1,660 จุด แนวต้าน 1,680 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งในกรอบจำกัด โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังผลประชุมโอเปกพลัส คงอัตรากำลังการผลิตน้ำมันที่จะเพิ่มเข้ามาที่ 400,000 บาร์เรล/วันในเดือน ก.พ.ตามเดิม
แต่การเร่งตัวขึ้นของราคาน้ำมันแม้จะหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานบ้านเรา เพราะอัพไซต์น่าจะเริ่มจำกัด เนื่องจากนักลงทุนอาจระมัดระวังมากขึ้น จากสถานการณ์การเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะหนุนภาพอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก็ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
พร้อมให้แนวรับที่ 1,660 จุด และแนวต้าน 1,680 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (4 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,799.65 จุด เพิ่มขึ้น 214.59 จุด (+0.59%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,793.54 จุด ลดลง 3.02 จุด (-0.06%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,622.72 จุด ลดลง 210.08 จุด (-1.33%)
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 12.99 จุด หรือ -0.04%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.07 จุด หรือ -0.11% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 33.93 จุด หรือ +0.15%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ม.ค.) 1,670.28 จุด เพิ่มขึ้น 12.66 จุด (+0.76%)
– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 6,237.51 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ม.ค.65
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (4 ม.ค.) ปิดที่ระดับ 76.99 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.2%
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 ม.ค.) อยู่ที่ 6.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 33.25 แข็งค่าจากวานนี้ ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อไทย-ตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ
– ผู้ป่วยโควิด “โอมิครอน” ยอดพุ่งไม่หยุด สะสม 2,062 ราย เหตุร้าน “อาหารกึ่งผับบาร์” ไม่ปฏิบัติตาม COVID free setting เป็นจุดแพร่เชื้อ สธ.จี้จังหวัดดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายสูงสุด กรมวิทย์เตรียมเก็บเลือดผู้ป่วย “โอมิครอน” ทดสอบภูมิฯสู้เดลตาหลังการศึกษา “แอฟริกาใต้” พบติดเชื้อ 14 วันภูมิคุ้มกันเดลตาสูงขึ้น 4 เท่า ประเมินยอดติดเชื้อ-เสียชีวิต 1 เดือนก่อนพิจารณา Test&Go และเปิดสถานบันเทิง
– เปิดศักราชปี 2565 ผู้บริโภคอ่วม สินค้าขยับราคายกแผง โอมิครอนทุบซ้ำ ฉุดกำลังซื้อซึมหนักหลังสิ้นสุด “คนละครึ่ง เฟส 3” เงินในกระเป๋าน้อยลง เบรกการจับจ่าย สมาคมผู้ค้าปลีก แนะรัฐเร่งอัดฉีดมาตรการปลุกเศรษฐกิจ สมาคมค้าส่งฯ คาด 2 เดือนแรกใช้จ่ายฝืด ตั้งงี่สุน จี้เพิ่มเงินเข้ากระเป๋าประชาชน ไอ.ซี.ซี.ฯ หวั่นโอมิครอน ทำคนไทยล็อกดาวน์ตัวเองอยู่บ้าน
– วงการตลาดเงินดิจิทัลฟันธง “คริปโทเคอเรนซี” จุดพลุลงทุนปี 2565 ชี้เทรนด์เหรียญที่อยู่บนแพลตฟอร์ม Defi-NFT-Metaverse” มาแรง ปลุกกระแส ชี้ “บิทคอยน์” แรงไม่ตก ลุ้นปีนี้แตะ 8 หมื่นดอลลาร์ ขณะที่ บลจ.ไทยพร้อมออกกองทุนลุยสินทรัพย์ดิจิทัลหาก ก.ล.ต.ไฟเขียว
– ไทยพาณิชย์เร่งเดินหน้ารุกดิจิทัลแบงกิ้ง ลดต้นทุนธุรกิจ ตั้งเป้า 5 ปี ปั้นผลตอบแทน ต่อผู้ถือหุ้นพุ่งแตะ 15-20% ภายใต้ โครงสร้างใหม่บนยานแม่ SCBx จากปัจจุบันที่อยู่ 8%
– รถไฟฟ้าสายสีเขียวอลเวง กทม.อ่วมหนี้พุ่ง บีทีเอสฟ้องศาลปกครอง ทวงหนี้ 3.7 หมื่นล้าน 2 คดีรวด ย้ำปี 2565 เตรียมเอกสาร ฟ้องต่อเนื่อง ค่าซื้อระบบเดินรถอีก 2 หมื่นล้าน หลังฟ้องทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถ 1.2 หมื่นล้าน พ่วง 4 ปี หนี้งอกอีก 5 พันล้าน ขณะ “อัศวิน” ผู้ว่ากทม. ยันเป็นสิทธิ์เอกชน-พร้อมแนะทางออกรัฐบาล
– ททท.แก้ลำไทยชะลอการเดินทางเข้าประเทศด้วยระบบ Test & Go ชงเพิ่มพื้นที่แซนด์บ็อกซ์เปิดทางรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ทั้งเสนอสภาพัฒน์ขอกันงบ 1.32 หมื่นล้านบาทคิกออฟ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4” ดีเดย์ 1 กุมภาพันธ์นี้
หุ้นเด่นวันนี้
– ICHI (ฟินันเซย ไซรัส) “ซื้อ” เป้าหมาย 13 บาท คาดกำไร Q4/64 ฟื้นตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y หลังคลาย Lockdown และปัญหา Logistic คลี่คลาย รวมถึงเข้า High Season ใน H1/65 หน้าร้อน และอยู่ระหว่างเตรียมออกสินค้าใหม่ทั้งเครื่องดื่ม Carbonate และ CBD Drink รวมทั้งมีแผนขยายลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ Non Drink สร้างโอกาสและต่อยอดการเติบโต คาดกำไรปี 64 +5% Y-Y และเร่งตัว +20% Y-Y ในปี 65 ปัจจุบันเทรด PER 19 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 25 เท่า
– JR (เมย์แบงก์) เป้าเชิงกลยุทธ์ 9.00 บาท จับมือ EA พร้อมลุยธุรกิจ EV Charger รับกระแสยานยนต์ EV ที่จะ เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 65 หลังรัฐบาลเตรียมออกนโยบายหนุน Backlog ในมือแข่งแกร่งที่ 5 พันลบ.พร้อมประมูลงานใหม่ในปีนี้ โดยมีเป้าหมายงานใหม่ที่ 7 พันลบ.ดัน Backlog แตะระดับ 1 หมื่น ลบ. Outlook รายได้สดใส หลังประมูลงานรถไฟฟ้า ลุ้นงานนำสายไฟลงดินและงานกลุ่มโครงสร้างฟื้นฐาน ICT เป็นหนึ่งในการลงทุนหลักของปี 65 ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
– HUMAN (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” เป้าหมาย IAA Consensus 14.60 บาท ประเด็นบวกเข้าซื้อกิจการ DataOn Group ที่เป็น HR Solution Provider เช่นเดียวกัน รวมกันแล้วจะทำให้บริษัทขึ้นเป็นผู้นำ HR &ERP เอเชีย จากจำนวนประชากรอินโดนีเซียมากเป็นอันดับ 4 ของโลก ภายหลัง synergy คาดภายในไม่เกิน 5 ปี รายได้ของบริษัทเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% จากปี 65 คาดว่าจะมีรายได้ 40 ล้านดอลลาร์ และอัตรากำไรสุทธิก้าวกระโดดมากว่า 35%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ม.ค. 65)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, ธีรดา ชาญยิ่งยงค์, หุ้นไทย