พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขอเตือนภัยกรณีเกี่ยวกับแอปพลิเคชั่นเงินกู้ออนไลน์ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ประชาชนหันมาทำธุรกรรมการเงินต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จึงมีเหล่ามิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสนี้แฝงตัวมาในรูปแบบของแหล่งเงินกู้ออนไลน์และได้กระทำความผิดในรูปแบบต่างๆ ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับการร้องทุกข์
โดยผู้ที่สร้างแอปฯ ดังกล่าวนั้นมีพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดฐานเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในส่วนที่เป็นแอปฯ ที่มีการหลอกให้โอนเงินมัดจำและไมให้เงินกู้จริงหรือหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว จะเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายให้ทุกหน่วยในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งสร้งการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน ให้ทราบถึงพิษภัยและรูปแบบการกระทำความผิดต่างๆ บนโลกออนไลน์ และเร่งทำการสืบสวนปราบปราม จับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี เพื่อเป็นการจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นและตัดโอกาสในการกระทำความผิดในอนาคต
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า แนวทางการหลีกเลี่ยงป้องกันการถูกหลอกลวงในรูปแบบของแอปฯ เงินกู้ออนไลน์นั้น ประชาชนควรวางแผนการเงินและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด, ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตนว่าจะสามารถชำระได้โดยที่ไม่เดือดร้อน, หากจำเป็นต้องกู้เงินจริงๆ ควรศึกษารายละเอียดของผู้ให้กู้ให้ดี เพื่อป้องกันการถูกเอาเปรียบ, ควรเลือกกู้เงินจากสถาบันการเงินที่น่เชื่อถือ, มีสัญญาการกู้ที่ชัดเจนและเป็นธรรม หากพบเห็นความผิดปกติ หรือขอเสนอที่ดีเกินไปควรหลีกเสี่ยง และอย่าหลงเชื่อว่าตัวเองโชคดี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มิ.ย. 64)
Tags: กฤษณะ พัฒนเจริญ, กู้เงินออนไลน์, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, แอปพลิเคชั่นเงินกู้