นายแพทย์สก็อตต์ ก็อตต์ลีบ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐประกาศเตือนว่า ผลการวิจัยครั้งใหม่จากประเทศอังกฤษพบว่า การติดเชื้อโควิด-19 มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดความเสียหายของเนื้อเยื่อสมองในระยะยาว
“งานวิจัยบ่งชี้ว่า เชื้อโควิด-19 อาจทำให้เกิดการสูญเสียเนื้อเยื่อสมองในระยะยาว และจะส่งผลกระทบบางประการในระยะยาวด้วยเช่นกัน”
นพ.ก็อตต์ลีบกล่าว
“เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายเราอาจปรับตัวได้ ฉะนั้นอาการที่เกิดขึ้นจากความเสียหายนั้นก็อาจจะหายไป แต่ร่างกายก็จะไม่สามารถสร้างเนื้อเยื่อสมองขึ้นมาทดแทนได้ หากถูกไวรัสทำลายไปแล้ว”
นพ.ก็อตต์ลีบระบุ
ในงานวิจัยดังกล่าว มีการตรวจสอบภาพสแกนสมองจากก่อนและหลังการติดเชื้อโควิด-19 และมุ่งเน้นการศึกษาเรื่องผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับระบบประสาท
นพ.ก็อตต์ลีบกล่าวกับผู้สื่อข่าวของ CNBC ว่า การที่เนื้อเยื่อสมองถูกทำลาย อาจเป็นสาเหตุที่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 หลายรายสูญเสียการรับรู้กลิ่น
“งานวิจัยพบว่า มีการสูญเสียเนื้อเยื่อสมองในบริเวณใกล้กับจุดที่ทำหน้าที่รับรู้กลิ่น ซึ่งหมายความว่า การสูญเสียการรับรู้กลิ่นนั้นเป็นเพียงหนึ่งในผลจากความเสียหายหลักที่เกิดขึ้น ซึ่งก็คือการหดตัวของเนื้อเยื่อสมอง”
นพ.ก็อตต์ลีบอธิบาย
ทั้งนี้ นพ.ก็อตต์ลีบเป็นผู้เขียนบทความให้กับสำนักข่าว CNBC และเป็นสมาชิกคณะกรรมการบริหารของบริษัทไฟเซอร์, บริษัทเท็มพัส, บริษัทเออีชั่น อิงก์ และบริษัทอิลลูมินา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มิ.ย. 64)
Tags: COVID-19, FDA, คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ, สก็อตต์ ก็อตต์ลีบ, โควิด-19