หุ้นในกลุ่มแบงก์ราคาไหลลง โดยเมื่อเวลา 10.41 น.
- หุ้น KBANK ลบ 1.54% มาอยู่ที่ 128.00 บาท ลดลง 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,341.67 ล้านบาท
- หุ้น SCB ลบ 1.90% มาอยู่ที่ 103.50 บาท ลดลง 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 441.51 ล้านบาท
- หุ้น BBL ลบ 1.22% มาอยู่ที่ 121.50 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 375.60 ล้านบาท
- หุ้น KTB ลบ 0.88% มาอยู่ที่ 11.20 บาท ลดลง 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 93.24 ล้านบาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯกลุ่มแบงก์มีมุมอง Negative sentiment ต่อข่าวที่นากยกรัฐมนตรีขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทบทวนอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ธนาคารที่จะได้รับ Sentiment เชิงลบมากสุดเรียงลำดับ ตามสัดส่วนสินเชื่อบุคคลมากสุด คือ ธนาคารกรุงไทย (KTB), ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB)
ส่วนธนาคารที่มีสินเชื่อจำนำทะเบียนมากสุดคือ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) ตามด้วย TTB ทั้งนี้หาก ธปท. ลดเพดานดอกเบี้ยจริง เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว ธปท. จะต้องช่วยลดต้นทุนทางการเงินของกลุ่มธนาคาร โดยอาจยืดอายุมาตรการลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ที่ 0.23% ออกไปอีก 1 ปี
พร้อมยังคงน้ำหนักการลงทุน Bullish สำหรับกลุ่มธนาคาร เลือก ธนาคารกรุงเทพ (BBL) แนะ”ซื้อ”ให้ราคาเป้าหมาย 155 บาท และธนาคารกสิกรไทย (KBANK) แนะ”ซื้อ”ให้ราคาเป้าหมาย 175 บาท เป็น Top pick
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มิ.ย. 64)
Tags: BBL, KBANK, KTB, SCB, ดอกเบี้ยสินเชื่อ, ธนาคารพาณิชย์, หุ้นกลุ่มธนาคาร, หุ้นไทย